เทนนิสประเภททีมไทยเหมาเหรียญทองทั้งทีมชายและทีมหญิง ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่กรุงเนปยีดอ ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม
เทนนิสประเภททีม รอบชิงชนะเลิศ ทีมชายพบกับมาเลเซีย คู่แรก เดี่ยวมือสอง ชญานนท์ แก้วสุทอ ชนะ อาซรูล เอกซาน 6-0, 6-2 เดี่ยวมือหนึ่ง ธนเพชร ฉันทะ ชนะ ชีก อาเมียร์ อับดุกกาห์ 6-2, 6-3 ทำให้ไทยชนะขาด 2-0 คู่ คว้าเหรียญทอง
ทีมหญิงพบกับสิงคโปร์ คู่แรก เดี่ยวมือสอง ร่มเกล้า ยืนยาว ชนะ ทริเซีย ตัน เยิ่น ผิง 6-1, 6-3 คู่สอง เดี่ยวมือหนึ่ง ยิ่งลักษณ์ จิตตโคตร์ ชนะ โจแอน โก๊ะ เหว่ย หลิง 6-0, 6-0 ไทยชนะขาด 2-0 คู่ คว้าทองได้อีกเหรียญ
นอกจากนั้นเทนนิสไทยยังได้เพิ่มอีก 1 เหรียญทอง จากคู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ ภวิชญ์ สอนหลักทรัพย์ – ร่มเกล้า ยืนยาว ชนะ ทริเซีย ตัน เยิ่น ผิง – เบเนดิกต์ ชั๊วะ ย่ง เหิง จากสิงคโปร์ 6-3, 6-1 จบวันนี้ได้ไป 3 เหรียญ ส่วนรายการอื่นๆ นักหวดไทยผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้ทั้งหมด ทั้งชายเดี่ยว, หญิงคู่, ชายคู่, หญิงคู่
นายสุรศักดิ์ ทรัพย์เพิ่ม ผู้จัดการทีมเทนนิสปัญญาชนไทยกล่าวว่า ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายในการคว้า 3 แชมป์ประเดิมของกีฬาเทนนิส ซึ่งในประเภทบุคคลยังมีลุ้นอีก 4 รายการ ตั้งเป้าว่าอยากจะได้แชมป์ทุกรายการ แต่ก็ต้องไม่ประมาทสิงคโปร์และมาเลเซียที่เตรียมตัวมาดีเช่นกัน
พี่น้องหยางรุ่งนวินเพิ่มอีก2ทองวูซู
สองพี่น้องหยางรุ่งรวินช่วยกันเก็บ 2 เหรียญทอง ในกีฬาวูซู ยุทธลีลา โดยได้จาก “ลี่” พิทยา หยางรุ่งรวิน จากประเภท 2 ยุทธลีลา หนานกุ้น(พลองใต้)-หนานเตา(ดาบใต้) รายการนี้มีแข่งขัน 2 วัน วันแรก (11 ธันวาคม) พิทยาลงโชว์ลีลาในประเภทหนานกุ้น ทำได้ 9.58 คะแนน ตามหลังชั๊วะ ซางหยาง จากมาเลเซีย ที่ได้ 9.60 คะแนนออยู่เล็กน้อย แต่ในประเภทหนานเตา วันนี้ พิทยาออกลีลาได้เยี่ยมยอด ทำไป 9.60 คะแนน ขณะที่หนุ่มมาเลเซียได้ 8.85 คะแนน ทำให้พิทยาคะแนนรวม 19.18 คะแนน ได้เหรียญทอง ส่วนเหรียญเงิน แฮร์ริส ฮอราติอุส จากอินโดนีเซีย 19.02 คะแนน เหรียญทองแดงชั๊วะ ซางหยาง 18.45 คะแนน
ขณะที่ยุทธลีลารตุ้ยเลี่ยน(การต่อสู้ประกอบอาวุธดาบกับทวน) พิทยาจับคู่กับ พี่ชาย “ตี๋” สุจินดา ลงแข่งขัน ซึ่งรายการนี้มีแข่งขัน 3 ชาติ คือ ไทย พม่าและมาเลเซีย ปรากฏว่าคู่พี่น้องของไทยทำคะแนนได้ดีที่สุด 9.60 คะแนน ได้เหรียญทองไปอีกรายการ เหรียญเงิน พม่า 9.59 คะแนน สรุป วูซูไทยทำได้ 4 ทอง 2 เงิน 1 ทองแดง
สุจินดากับพิทยาเปิดเผยว่า ดีใจที่ได้เหรียญทอง โดยเฉพาะตุ้ยเลี่ยน เพราะเล่นกันมานาน ทำให้ตั้งความหวังมาค่อนข้างสูง รู้สึกเล่นด้วยกันแล้วเข้าขากันอย่างมาก ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่วูซูได้แข่งขันกันในมหกรรมกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน จึงอยากคว้าเหรียญทองให้ได้ ถือว่าเกินคาด เพราะตั้งเป้ามาแค่แชมป์ตุ้ยเลี่ยนเท่านั้น หลังจากนี้จะเก็บตัวเพื่อเตรียมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในเดือนธันวาคม อยากจะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพราะวูซูมีอีเวนต์ให้ออกไปแข่งขันไม่เยอะ
เปิดโรงเรียนสอนหวังขยายฐานคนเล่น
สุจินดากล่าวอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้นอกจากตัวเองและน้องชายแล้ว ยังมีพี่ชายอีก 2 คน มาร่วมเป็นกรรมการตัดสินด้วย ซึ่งในครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด เป็นชาวเขาเผ่าม้ง จาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ แรงบันดาลในการเล่นวูซูมาจากการชอบดูละครกำลังภายในของจีน แม้ว่าที่บ้านจะไม่มีโทรทัศน์ ก็ต้องจูงมือพี่น้องไปดูที่บ้านญาติที่มีโทรทัศน์ ก่อนเลียนแบบวิทยายุทธจีนเท่าที่จะหาอุปกรณ์บริเวณบ้านมาเล่นกันได้ จนพ่อเห็นแล้วได้จ้างครูชาวพม่ามาสอน มี 4 คนพี่น้องที่พัฒนาจริงจัง จนมาเป็นทีมชาติจนถึงทุกวันนี้
“ผมได้เปิดโรงเรียนสอนกังฟูและวูซู ชื่อสำนักวูซู ชวน กังฟู อยากจะเชิญชวนให้เด็กๆ รุ่นใหม่มาเล่นกัน หรือใครอยากรู้เทคนิคสามารถไปติดตามดูคลิปสอนเทคนิคต่างๆ ในเพจเฟซบุ๊กชื่อสำนักวูซู ชวน กังฟู กันได้ เพราะอยากให้กีฬาชนิดนี้แพร่หลายมากขึ้น” นักวูซูทีมชาติไทยกล่าว
ตะกร้อคู่ ทีมชุดไทยเก็บชัยชนะ 2 นัดรวด ในการแข่งขับรอบพบกันหมด โดยมี 5 ชาติร่วมบู๊ ได้แก่ ไทย พม่า สิงคโปร์ มาเลเซียและลาว ใช้ระบบพบกันหมด ทีมที่ผลงานดีที่สุดจะได้เหรียญทอง โดยไม่มีรอบชิงเหรียญแต่อย่างใด
