ตะกร้อ ’จุฬาฯ’ ล้มทีมชาติ ‘สพล.’ ซิวทองราชภัฏอุบลราชธานีเกมส์ ‘ณัฐภัทร’ หยิบแชมป์เทควันโด 6 ปีซ้อน

ตะกร้อทีมเดี่ยวหญิง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลับมาทวงแชมป์จากสถาบันการพลศึกษาได้สำเร็จ ถึงแม้ว่า สพล.จะมีนักหวดลูกพลาสติกทีมชาติไทยร่วมทีมมาถึง 2 คน ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 “ราชภัฏอุบลราชธานีเกมส์” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 17 มกราคม ซึ่งเป็นการแข่งขันวันที่ 7

นักหวดลูกพลาสติกสาว “แชมป์เก่า” สพล. นำโดย วิภาดา จิตพรวน, ศิรินันท์ เขียวปัก สองนักตะกร้อดีกรีทีมชาติไทย และดาวรุ่งอย่าง จุฑาทิพย์ กันทะธง ลงดวลกับ “รองแชมป์เก่า” จุฬาฯ ที่ประกอบด้วย ปริมประภา แก้วคำไสย์, รัชดาภรณ์ แจ้งไพร และ พลอยชมพู มาตพงษ์ อย่างไรก็ตามสาวจุฬาฯไม่เกรงกลัวทีมชาติ สู้กันอย่างสนุก และถอนแค้นเอาชนะไปได้ 2-0 เซต 21-19, 21-16 กระชากเหรียญทองครองได้สำเร็จ ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของ มรภ.ศรีสะเกษ และ ม.รามคำแหง

“ณัฐภัทร”ครองแชมป์เทควันโด6สมัยติด
“ร็อค” ณัฐภัทร ต้นตรามาตย์ นักเทควันโดทีมชาติไทย จาก ม.กรุงเทพธนบุรี คว้าแชมป์กีฬาปัญญาชน รุ่น 87 กก.ชาย เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน โดยรุ่นรี้ ณัฐภัทรเริ่มแข่งตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ ชนะศรีวิราช ทองอินทร์ จาก มทจ.พระนครเหนือ 22-3 รอบชิงชนะเลิศ ชนะ นันทพงศ์ ทายพงศ์ศักดิ์ จาก ม.อัสสัมชัญ 27-6 คว้าแชมป์ต่อเนื่อง 6 ครั้ง ตั้งแต่การแข่งขันครั้งที่ 41 มอดินแดงเกมส์ ที่ ม.ขอนแก่น เมื่อปี 2557

Advertisement

ด้าน “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี จอมเตะทีมชาติไทย ตีนโหดไล่เตะคู่แข่งขาดลอยเกือบทุกรอบ คว้าเหรียญทองตามคาด ในรุ่น 58 กก.ชาย รอบแรก รามณรงค์ ชนะรัชชานนท์ วงค์ไชย จาก ม.แม่โจ้ 30-4 รอบสอง ชนะวรัญญู ตรีทิพศิริศีล จาก ม.กรุงเทพ 21-7 รอบรองชนะเลิศ ชนะฐิติทัต สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา จาก ม.อัสสัมชัญ 19-13 และรอบชิงชนะเลิศ ชนะสาทร ชัยสวัสดิ์ จาก ม.เกษตรศาสตร์ 37-13 คว้าแชมป์

ผลรอบชิงชนะเลิศ อีก 2 รุ่น รุ่น 49 กก.หญิง อรวรา ปัดชัยยัง(ม.เกษตรศาสตร์) ชนะ ชนกานต์ เสาวรส(ม.อัสสัมชัญ) 12-5 รุ่น 73 กก.หญิง ปิยฉัตร นิลเพ็ชร ชนะ คาสซานดร้า ฮาลเลอร์(ม.รัตนบัณฑิต) 9-2

กรุงเทพธนฯหวังโกยมากกว่า83ทอง
ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองอธิการบดี ม.กรุงเทพธนบุรี เปิดเผยว่า การชิงชัยเกินครึ่งทางและเข้าโค้งสุดท้ายแล้ว มีโอกาสสูงที่ ม.กรุงเทพธนบุรีจะเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาปัญญาชน 2 สมัยติดต่อกัน ซึ่งก็เป็นไปตามเป้าหมายของมหาวิทยาลัยที่วางไว้ อย่างไรก็ตามก็ยังมีโอกาสที่จะคว้าเหรียญทองให้มากกว่าเมื่อปีที่แล้ว คือ 83 ทอง ซึ่งถ้าทำได้ก็ถือเป็นพัฒนากรที่ดีของการพัฒนากีฬาของสถาบัน

Advertisement

“ม.กรุงเทพธนบุรีอัดฉีดเหรียญทอง 100,000 บาท เหรียญเงิน 30,000 บาท และเหรียญทองแดง 10,000 บาท กลับไปกรุงเทพ ก็จะจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จและมอบเงินรางวัลในวันที่ 23 มกราคมทันที แต่จะไม่เลี้ยงแค่นักกีฬา จะมีการจัดฉลองใหญ่ให้นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ทุกคนในมหาวิทยาลัยมาร่วมฉลองกันทั้งหมด” ดร.ดวงฤทธิ์กล่าว

รองอธิการบดี ม.กรุงเทพธนบุรี กล่าวอีกว่า ในการแข่งขันครั้งที่ 49 ปี 2565 ได้มีแนวคิดขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ อย่างไรก็ตามเพื่อให้การแข่งขันมาตรฐานสูงขึ้น จะขอความร่วมมือกับสถาบันที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับ ม.กรุงเทพธนบุรี มาเป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพราะแต่ละสถาบันมีความพร้อมแตกต่างกัน ก็จะมีการคุยกันว่าสถาบันไหนจะจัดแข่งอะไรที่ถนัด หรือมีหน้าที่อะไรบ้าง หลังจากนี้จะมีการประสานไปยังมหาวิทยาลัยใกล้เคียงเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง

ทั้งนี้ สถาบันในย่านฝั่งพุทธมณฑลมี 3 สถาบัน คือ ม.กรุงเทพธนบุรี, ม.มหิดล ศาลายา และ มทร.รัตนโกสินทร์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image