‘ก้องศักด’แถลงดำเนิน12โครงการ มั่นใจสร้างรายได้หมื่นล้านให้ประเทศไทย (คลิป)

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)​ เป็นประธานในการแถลงผลการดำเนินการในรอบ 6 เดือนหลังจากรับตำแหน่ง ประจำปีงบประมาณ 2562 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 9 เมษายน โดยภายในงานยังได้มีนักกีฬาทีมชาติไทยและโค้ชชื่อดังเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ “ไก่” ปวีณา ทองสุก, “วิว” เยาวภา บุรพลชัย, ปลื้มจิต ถินขาว, รัฐภาคย์ วิไลโรจน์, สุมัญญา ปุริสาย, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ รวมถึง 3 สาวจากเกิร์ลกรุ๊ป “BNK48” ประกอบด้วย “น้ำหนึ่ง” มิลิน ดอกเทียน, “เนย” กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล และ “แนทเธอรีน” ดุสิตา กิติสาระกุลชัย

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า 6 เดือนที่ผ่านมาได้เริ่มขับเคลื่อน 12 แผนงานเพื่อยกระดับวงการกีฬาให้ใกล้เคียงกับระดับนานาชาติ โดยแผนงานที่เน้นคือการนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งการจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ในโครงการสมาร์ท เนชั่นแนล สปอร์ต ปาร์ค ให้เป็นศูนย์กลางการบริการทางการกีฬาระดับประเทศ รองรับการฝึกซ้อมได้มากถึง 20 ชนิดกีฬา และยังเดินทางสะดวก มีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อถึงทันที ขณะที่ภายในยังมีเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างห้างสรรพสินค้ากีฬา เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้ามาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยจะเริ่มที่หัวหมาก ก่อนพัฒนาสู่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ รองรับการเป็นศูนย์กลางกีฬาของอาเซียนในอนาคต

ผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการพัฒนาอุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬาทุกด้านให้ทันสมัยทัดเทียมนานาชาติ พร้อมปรับปรุงสนามกีฬา 4 สนามหลักของกกท. ได้แก่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน (หัวหมาก), สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่, สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา และสนามกีฬาพรุค้างคาว จ.สงขลา ซึ่งทั้งหมดนี้บอร์ด กกท. ได้อนุมัติเห็นชอบแล้ว เหลือแค่เสนอต่อรัฐบาลให้รัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ถ้าหากสามารถขับเคลื่อนโครงการตามนโยบายทั้งหมดได้ จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปีอย่างแน่นอน
บิ๊กก้อง กล่าวเสริมว่า ปัญหาเรื่องของการส่งมอบสนามกีฬาทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ มหาสารคาม, สระแก้ว. สมุทรปราการ, อำนาจเจริฐ, สกลนคร, เพชรบูรณ์ และนราธิวาส ตั้งแต่เข้ามารับงานได้มีการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับมอบสนามกีฬาประจำจังหวัดมหาสารคามแล้วเป็นที่แรก ต่อไปจะเป็นจ.สกลนคร ที่เดือนพฤษภาคมจะได้เริ่มรับมอบบางส่วนใช้งานก่อน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงปัญหาของสมาคมกีฬาต่างๆ อาทิเช่น ยกน้ำหนัก, ยิงปืน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเตรียมนักกีฬาไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้ว่าการกกท. กล่าวว่า ปัญหาเหล่านี้ได้มีการประชุมและหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกให้นักกีฬาได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนี้จะมีการตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อแก้ไขข้อพิพาทด้านกีฬา รวมไปถึงปัญหาเรื่องของสารต้องห้ามนั้น เมื่อเกิดปัญหาก็จะส่งผลกระทบในวงกว้าง ดังนั้นจะต้องเตรียมเรื่องของการมอบความรู้ให้มากที่สุด และพัฒนาอุปกรณ์ให้ได้ระดับมาตรฐานทัดเทียมกับนานาชาติต่อไป

สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ดร.ก้องศักด กล่าวว่า จะตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ติดตามการฝึกซ้อมและคัดเลือกนักกีฬา รวมถึงรวบรวมปัญหา อุปสรรคต่างๆ ต้องยอมรับว่าคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้เจ้าเหรียญทองหรือไม่ เพราะชนิดกีฬาบางชนิดต้องยอมรับว่าเป็นกีฬาที่ไทยเองยังไม่รู้จัก ครั้งนี้อาจจะต้องทำตารางเหรียญแบบแยกชนิดกีฬาพื้นบ้านกับกีฬาโอลิมปิกเกมส์ออกจากกัน แล้วค่อยมาดูว่าผลงานของนักกีฬาไทยดีแค่ไหน

นายใหญ่ค่ายหัวหมาก กล่าวปิดท้ายว่า 6 เดือนแรกเป็นเรื่องของการขับเคลื่อนวงการกีฬา ให้คะแนนไว้ที่ 8 เต็ม 10 เพราะต้องยอมรับว่าหลายโครงการนั้นเป็นการวางแผนในระยะยาวเพื่ออนาคต ส่วน 6 เดือนต่อไปนี้จะเน้นเรื่องกีฬาเป็นเลิศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อสอดคล้องกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่กำลังจะมาถึง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image