‘บาส-ป้อ-เมย์-กันต์’กลับถึงไทย คู่ผสมยันล่าแต้มต่อเพื่อการันตีไปอลป.

“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์, “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย, “เมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “กันต์” กันตภณ หวังเจริญ 4 นักแบดมินตันไทยที่ช่วยกันคว้า 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก “โททาล บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2019” ที่เมืองบาเซิ่ล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางกลับถึงประเทศไทย ที่ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 สิงหาคม โดยมีพล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ให้การต้อนรับ

โดย “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือ 4 ของโลก คว้าเหรียญเงินมาได้ ซึ่งเป็นนักแบดมินตันคู่ผสมคู่แรกที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ขณะที่ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยวมือ 6 ของโลก กับ “กันต์” กันตภณ หวังเจริญ ชายเดี่ยวมือ 15 ของโลก ได้เหรียญทองแดง ซึ่งนับเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกที่ได้เหรียญรางวัลในชิงแชมป์โลก

ทรัพย์สิรี กล่าวว่า ดีใจมากๆ ที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก เพราะว่าที่ผ่านมามักจะอยู่เพียงรอบ 16 คน/คู่ สุดท้ายเท่านั้น แต่ครั้งหน้าก็จะตั้งเป้าทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าครั้งนี้ให้ได้ ต้องยอมรับว่าในรอบชิงชนะเลิศที่เจอกับ เจิ้ง ซีเหว่ย กับ หวง ย่าเฉียง คู่มือ 1 ของโลกจากจีนนั้น ไม่สามารถคุมเกมได้ ปล่อยให้คู่แข่งคุมเกมได้มากกว่า จึงเป็นฝ่ายแพ้ไป

“เป้าหมายต่อไปอย่างน้อย เข้ารอบรองชนะเลิศในทุกรายการที่ไปแข่งขัน โดยอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าก็จะไปแข่งขัน 2 รายการ คือ ไชน่า โอเพ่น ที่ประเทศจีนกับ โคเรีย โอเพ่น ที่ประเทศเกาหลีใต้ ส่วนเป้าหมายใหญ่คือการทำคะแนนเข้าไปเล่นเวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล ที่ประเทศจีน ในปลายปีนี้ให้ได้อีกครั้ง เพื่อเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้าต่อไป” ทรัพย์สิรี กล่าว

Advertisement

ด้านเดชาพล กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติของตัวเอง ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ เสียดายที่ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้แต่ก็ไม่ได้เสียใจแต่อย่างใด เพราะถือว่าเกินเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ก่อนไปแล้ว

“การได้รองแชมป์รายการนี้ทำให้ได้คะแนนสะสมเยอะมาก แต่ถึงแม้ว่าจะมีคะแนนตุนเอาไว้เยอะ ก็ยังไม่คิดว่าตัวเองจะได้ผ่านเข้าไปเล่นในโอลิมปิกเกมส์ 2020 แบบชัวร์ๆ จะพยายามมุ่งมั่นเก็บคะแนนต่อไปเรื่อยๆ เพิ่มโอกาสให้ตัวเองมากยิ่งขึ้นไปกว่านี้” เดชาพล กล่าว

ขณะที่ รัชนก กล่าวว่า พอใจกับผลงานในปีนี้ ยอมรับว่าแต่ละรอบไม่ง่ายซึ่งได้พยายามอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอยู่ โดยเฉพาะเรื่องสภาพร่างกาย จะทำให้แกร่งกว่าเดิม เสียดายที่ไม่สามารถเข้าชิงชนะเลิศได้ แต่ได้เหรียญทองแดงก็ดีใจแล้ว เป้าหมายต่อไปคือเข้ารอบ 8 คนในทุกรายการเป็นอย่างน้อย เพื่อคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในปีหน้าให้ได้

Advertisement

ส่วน กันตภณ กล่าวว่า เป็นผลงานที่เซอร์ไพรส์มากเกินเป้าหมายที่วางไว้ ในรอบ 8 คนที่เอาชนะ โจว เทียน เฉิน มือ 2 ของโลกจากไต้หวันนั้น มองว่าเป็นการปลดล็อคตัวเองได้ เชื่อว่าต่างฝ่ายต่างกดดัน พอชนะได้ก็ดีใจสุดๆ เป้าหมายจากนี้คือ ไชน่า โอเพ่น และโคเรีย โอเพ่น รวมถึงซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และก็หวังว่าจะมีชื่อติดไปแข่งขัน เวิลด์ทัวร์ ไฟนอล ที่ประเทศจีนในช่วงปลายปีนี้ และเป้าใหญ่ก็คือโอลิมปิกเกมส์ 2020 ในปีหน้า

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image