‘เจริญ’บ่นฟิลิปปินส์ฝืนธรรมนูญซีเกมส์ ‘หมอมีชัย’ขู่นักกีฬาสอบสารต้องห้ามไม่ผ่านอดไป

พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ​ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกชนิดกีฬา นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ประจำทีมที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ประเทศฟิลิปปินส์ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย​ (กกท.) เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม สรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุมได้มีการแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้เจ้าภาพได้ปิดระบบลงทะเบียนแล้ว จะไม่สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ ยกเว้นแต่มีนักกีฬาบาดเจ็บหรือว่าเจ็บป่วย ที่ต้องมีใบรับรองแพทย์ สรุปการประมาณการคณะนักกีฬาไทย นักกีฬา 988 คน เจ้าหน้าที่ทีม 331 คน เจ้าหน้าที่อื่นๆ 73 คน รวมทั้งสิ้น 1392 คน

ในส่วนของการเดินทาง นักกีฬาที่แข่งที่กรุงมะนิลาและเมืองลูซอน จะเดินทางไปก่อนการแข่งขัน 2 วัน ส่วนที่เมืองคลาร์ก และเมืองซูบิค นั้น เนื่องจากว่าจะต้องนั่งรถเดินทางต่ออีก 2-3 ชั่วโมง จึงจะให้เดินทางไปก่อนแข่งขัน 3 วัน แต่ในส่วนของทัพแรกที่จะเดินทางไปก่อนก็คือกีฬาวินด์เซิร์ฟ ที่จะเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน

“บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าวในที่ประชุมว่า ขณะนี้เจ้าภาพเองยังมีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง อย่างเช่นล่าสุดเปลี่ยนแปลงข้อมูลในเทคนิคคอลแฮนด์บุ๊คของ 8 ชนิดกีฬาด้วยกัน และยังมีการเปลี่ยนแปลงเมืองการแข่งขันของกีฬาเปตอง จากเดิมที่กรุงมะนิลา มาอยู่ที่เมืองคลาร์ก และเปลี่ยนแปลงวันการแข่งขันบางชนิดกีฬา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลังจากการประชุมหัวหน้าคณะนักกีฬา ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม จบลง ทุกอย่างน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว

Advertisement

นพ.มีชัย อินวู๊ด ผอ.สำนักควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางกีฬา กกท. กล่าวว่า ในส่วนของการตรวจสารต้องห้ามนักกีฬาก่อนเดินทางไปแข่งขัน เนื่องจากว่ามีนักกีฬาจำนวนมาก จึงปรับระบบมาเป็นการอบรมให้ความรู้ และให้ทำการทดสอบ โดยมีหลายสมาคมกีฬาที่มีความรู้ความเข้าใจดี สอบผ่าน 100 เปอร์เซ็นต์ เช่น กรีฑา(มาราธอน)​, ซอฟท์เทนนิส หรือบาสเกตบอล เป็นต้น แต่ก็มีอีกหลายชนิดกีฬาที่ผลสอบยังไม่ดี เช่น มวยไทย สอบผ่าน 12.5 เปอร์เซ็นต์, เทนนิส สอบผ่าน 30 เปอร์เซ็นต์ หรือเรือพาย จากจำนวน 104 สอบผ่านแค่ 9 คนเท่านั้น เท่านั้น

นพ.มีชัย กล่าวต่อว่า เห็นได้ชัดว่ายังมีนักกีฬาอีกมากที่ยังขาดความเข้าใจในเรื่องของสารต้องห้าม ดังนั้นคนที่ยังสอบไม่ผ่าน ก็จะมีการนัดสอบซ่อม และอีกหลายชนิดกีฬาที่ยังไม่ได้อบรมและสอบ ก็จะนัดมาสอบเพิ่มเติม และถ้าหากใครที่ยังสอบไม่ผ่าน ก็จะไม่ให้เดินทางไปแข่งขัน เนื่องจากว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะถูกตรวจพบสารต้องห้ามได้

“เชื่อว่าในซีเกมส์ครั้งนี้ จะมีการตรวจสารต้องห้ามไม่ต่ำกว่า 600 เคส รวมเคสที่ตรวจเลือดด้วยก็จะราวๆ 800 เคส และนักกีฬาไทยมีโอกาสที่จะโดนตรวจมากที่สุดไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ในส่วนของนักกีฬาไทยมีการตรวจไปแล้วกว่า 400 เคส ยังไม่พบการใช้สารต้องห้าม แต่อีก 2 อาทิตย์ก่อนเดินทางจะมีการตรวจอีกครั้งในกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง” นพ.มีชัย กล่าวปิดท้าย

ศ.พิเศษ เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะมนตรีซีเกมส์ กล่าวว่า จากการประชุมตอนนี้สรุปได้ว่าจะมีการชิงทั้งหมด 504 ทอง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเจ้าภาพพยายามที่จะกวาดเหรียญไปให้ได้มากที่สุด มีการฝ่าฝืนธรรมนูญซีเกมส์หลายอย่าง สิ่งหนึ่งที่จะเตือนให้แต่ละสมาคมฯ กีฬาระวังคือ ให้ศึกษาเทคนิคคอลแฮนด์บุ๊คของแต่ละชนิดให้ละเอียด เทียบกับของสหพันธ์ให้ดีว่าตรงกันไหม เจ้าภาพมีสอดไส้อะไรที่ผิดปกติมาหรือไม่ และให้เกาะติดแต่ละสหพันธ์กีฬาให้ดี เพราะเป็นผู้อำนาจสิทธิขาดในการตัดสินใจเกี่ยวกับการแข่งขันนั้นๆ

ภายหลังการประชุม นายธนา กล่าวว่า สิ่งที่หนักใจที่สุดคงเป็นเรื่องการที่เจ้าภาพเปลี่ยนข้อมูลไปมา แต่ก็น่าจะได้ข้อสรุปหลังการประชุมหัวหน้าคณะนักกีฬา ส่วนเรื่องของมิจฉาชีพ อบายมุขต่างๆ ก็ได้เตือนนักกีฬาให้ระมัดระวังตัวเอาไว้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image