“โค้ชบอย” นายปิยะพงศ์ พิรุณ ผู้ฝึกสอนบาสเกตบอลทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปินส์ ช่วงวันที่ 31 พฤศจิกายน-11 ธันวาคมนี้ เปิดเผยว่า ในการแข่งขันบาสเกตบอล ทางเจ้าภาพฟิลิปปินส์ได้แก้กฏใหม่ โดยสามารถใช้ผู้เล่นลูกครึ่งได้เต็มที่ เพราะเจ้าภาพเองเป็นเมืองของกีฬาบาสเกตบอล แต่ผลงานในบาสเกตบอลชิงแชมป์โลก ฟิลิปปินส์ได้อันดับบ๊วย ดังนั้น ซีเกมส์จึงเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ต้องการจะเรียกศรัทธาจากแฟนแม่นห่วงกลับมา โดยฟิลิปปินส์แทบจะใช้นักกีฬาจากพีบีเอ (ลีกบาสเกตบอลฟิลิปปินส์) ทั้งทีม ไม่ว่าจะเป็น คีเฟอร์ ราเวน่า, คริสเตียน สแตนฮาร์ดิงเกอร์, ทรอย โรซาริโอ, สแตนลีย์ พริงเกิ้ล, จาเพธ อากีลาร์ ฯลฯ และเป็นทีมที่แกร่งพอๆ กับชุดแข่งฟีบ้าเวิลด์ คัพ ที่ลงอุ่นเครื่องเอาชนะ อาลับ ฟิลิปินาส ที่มีนักกีฬาสหรัฐอเมริกาได้อีกด้วย
นายปิยะพงศ์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทีมยัดห่วงหนุ่มไทยเราก็ได้ประโยชน์จากกฏผู้เล่นลูกครึ่งนี้เหมือนกัน เพราะจะสามารถใช้ ไทเลอร์ แลมบ์ ได้อีกครั้ง ประกอบกับนักกีฬาทีมชาติไทยชุดนี้เล่นในลีกอาชีพที่เมืองไทยได้ชนกับนักกีฬาบาสเกตบอลต่างชาติอยู่ตลอด ทำให้มีประสบการณ์ และพัฒนาการขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป จักรวาล, ชิดชัย อนันติ, วัฒนา สุทธิสินธุ์, ณัฐกานท์ เมืองบุญ, อรรถพงษ์ ลีลาพิพัฒน์กุล, อนุชา รังสุ่ย ซึ่งทีมไทยมั่นใจว่า เราจะสู้ได้
ขณะที่ “โค้ชกาญจน์” น.ส.กาญจนา ประสานชัยมนตรี เฮดโค้ชบาสเกตบอลหญิง เปิดเผยว่า ซีเกมส์ครั้งนี้แข่งขันแบบพบกันหมด และทีมไทยจะต้องวัดกับฟิลิปปินส์ ทีมเดียว แต่ฟิลิปปินส์จัดโปรแกรมได้สุดโหดมากๆ คือ ทีมบาสเก็บอลสาวไทยจะเจอกับฟิลิปปินส์ ในวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 20.30 น.และต่อมาวันรุ่งขึ้นในวันที่ 6 ธันวาคม จะเจอกับ พม่า ในเวลา 08.30 น. ซึ่งหมายความว่า ผู้เล่นไทยจะมีเวลาพักเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีการปรับเปลี่ยนกฏเรื่องสัญชาติของผู้เล่นนั้น ทำให้ทีมไทยได้ ทิฟฟานี่ บิอาส นักกีฬาบาสเกตบอลลูกครึ่งที่เคยเล่นในดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอเข้ามาเสริมทีม และช่วยยกระดับทีมได้มากในตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ด และพอยต์การ์ด
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
