ความเคลื่อนไหวการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิก 2020 รอบคัดเลือกทวีปเอเชีย เพื่อตั๋วโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยหลังจากทีมสาวไทยประเดิมสนามนัดแรก กลุ่มเอ ปราบไต้หวัน 3-0 เซต 25-16, 25-21, 25-16 นั้น
ล่าสุดในวันที่ 8 มกราคม ทีมนักตบสาวไทยที่ไม่มีโปรแกรมแข่งขัน จึงได้เก็บตัวซ้อมที่โรงยิมของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ก่อนมีคิวปะทะออสเตรเลีย ในนัด 2 ของกลุ่มเอ ที่ชาติชาย ฮอลล์ จ.นครราชสีมา วันที่ 9 มกราคมนี้ เวลา 18.00 น.
“โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ระบุว่า เมื่อดูจากรูปเกมวันแรก สิ่งสำคัญที่สุดของซ้อมครั้งนี้คือต้องพัฒนาการรับบอลแรก รวมถึงการฟิตซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมแข่งกับออสเตรเลีย
หัวหน้าผู้ฝึกสอนของไทย กล่าวอีกว่า จากเกมแรก นักกีฬามีปัญหาเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ใช่อุปสรรคใหญ่หรือรุนแรงมาก ซึ่งเราก็ได้มีการทำกายภาพจากทีมที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยส่งมาให้ โดยเป็นหมอนวด 5 คนและนักกายภาพ 3 คน เพื่อให้เราฟื้นฟูสภาพร่างกายนักกีฬาได้อย่างรวดเร็วพร้อมสำหรับการฝึกซ้อมและการแข่งขันได้มากขึ้น
โค้ชด่วน กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับเกมบล็อกของออสเตรเลียที่มีความสูงใหญ่ ทีมไทยจะต้องแก้ทางด้วยการเล่นแบบผสมผสาน และสปีดบอลต้องมีความรวดเร็ว เพราะว่าผู้เล่นออสเตรเลียเคลื่อนไหวค่อนข้างช้ากว่า
ด้าน “ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ มือเซตกัปตันทีม กล่าวว่า การฝึกซ้อมราว 2 ชั่วโมงครั้งนี้ถือเป็นการฟื้นฟูทักษะต่างๆ และเก็บรายละเอียดข้อผิดพลาดจากเกมแรก เพื่อเตรียมตัวดวลกับออสเตรเลีย (ครั้งล่าสุดเคยเจอกันปี 2018 รายการเอวีซีคัพ) ซึ่งเขาเป็นทีมที่ทีผู้เล่นสูงใหญ่ แต่การเคลื่อนที่ค่อนข้างช้า โดยเราสามารถปรับระบบการเล่นให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เรามีโอกาสชนะเขาได้ง่ายขึ้น
“ข้อผิดพลาดที่เห็นจากเกมแรกคือการรับลูกเสิร์ฟ ซึ่งต้องรีบแก้ไขอย่างด่วนๆ เพราะหากเรามองถึงการเข้ารอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศแล้ว การรับบอลแรกต้องแน่นอนกว่านี้“ นุศรา กล่าว
กัปตันทีมสาวไทยเผยอีกว่า นักกีฬาแต่ละคนรู้ความผิดพลาดของตัวเองดี และให้กำลังใจกันเสมอ ซึ่งในแมตช์สำคัญนั้น เชื่อว่าทุกคนจะรวมพลังกันช่วยเหลือทีมได้มากขึ้นแน่นอน โดยบางช่วงที่ซ้อมหนักก็อาจจะมีท้อมีเหนื่อยกันบ้าง เพราะต้องใช้ความอดทดค่อนข้างสูง รวมถึงบางคนมีอาการบาดเจ็บมาก่อน จึงกระตุ้นและเล่นมุขตลกเพื่อความผ่อนคลายบ้าง
ทั้งนี้ ไทยมีโปรแกรมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มเอกับออสเตรเลียในวันที่ 9 มกราคม เวลา 18.00 น. ซึ่งจากนั้นทีมอันดับ 1 และ 2 ของกลุ่มเอกับบีจะต้องมาไขว้เจอกันในรอบรองชนะเลิศในวันที่ 11 มกราคมต่อไป
