ทัพนักปั่นไทยรวมพลังคว้าเหรียญเงิน ญี่ปุ่นผงาดอันดับ 1 ครอสคันทรี่ รีเลย์ เอเชีย

การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 26 และการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 12 ที่ตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ เป็นการแข่งขันวันแรก ซึ่งมีพิธีเปิดการแข่งขันที่บริเวณดอยม่อนกระถาง โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้เกียรติเป็นประธานร่วมกับ “เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย มร.ชอย บู วูง ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาจักรยานฯ และอดีตคณะกรรมการบริหารสหพันธ์จักรยานานาชาติ (ยูซีไอ), น.ส.ละออง ติยะไพรัช ส.ส.เชียงราย รวมทั้งหัวหน้าหน่วยราชการที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันร่วมในพิธี และมี นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน เป็นผู้กล่าวรายงาน

สำหรับการแข่งขันในวันแรก เป็นการชิงชัยเหรียญทองประเภทครอสคันทรี่ ทีมรีเลย์ โดยมี 6 ชาติลงแข่ง ประกอบด้วย ญี่ปุ่น, ไทย, คาซัคสถาน, อิหร่าน, มาเลเซีย และ ไต้หวัน แต่ก่อนการแข่งขัน ไต้หวัน ขอถอนตัว จึงเหลือเพียง 5 ชาติ ซึ่งการแข่งขันประเภทครอสคันทรี่ ทีมรีเลย์ แต่ละทีมจะส่งนักกีฬาจำนวน 5 คน ประกอบด้วย นักกีฬารุ่นประชาชนชาย, รุ่นประชาชนหญิง, รุ่นเยาวชนชาย, รุ่นเยาวชนหญิง, รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชาย หรือ หญิง ซึ่งสามารถสลับสับเปลี่ยนกันได้ แต่ต้องไม่เกิน 5 คน ลงปั่นคนละ 1 รอบ รวม 5 รอบ (ระยะทาง 24.1 กม.) เวลาเปลี่ยนตัวนักกีฬาต้องมาสัมผัสร่างกายกันก่อน

 เรืออากาศเอก สุภัทร ศรีไสว ผู้ฝึกสอนจักรยานเสือภูเขาทีมชาติไทย ได้จัดตัวนักกีฬาทีมชาติไทยไว้ดังนี้ ไม้ 1 รุ่นประชาชนชาย “โดด” กีรติ สุขประสาท นักปั่นเจ้าของเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์, ไม้ 2 รุ่นเยาวชนชาย “หนึ่ง” อธิพงษ์ สุวรรณสิงห์, ไม้ 3 รุ่นประชาชนหญิง “ไก่” ศุภักษร นันตะนะ, ไม้ 4 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง นาตาลี ปัญญาวัน, ไม้ 5 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย “โตมร” พูนศิริ ศิริมงคล

Advertisement

หลังจากปล่อยตัวไม้แรก กีรติขับเคี่ยวไปกับนักปั่นต่างชาติ เมื่อครบรอบ ริกิ คิตาบายาชิ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ของญี่ปุ่นเข้ามาเป็นคนแรกแล้วส่งต่อให้มีโฮ อิมาอิ รุ่นประชาชนหญิง ส่วนกีรติ เข้ามาเป็นอันดับ 3 ก่อนจะส่งต่อให้อธิพงษ์ ในรอบที่สองนี้ อธิพงษ์อาศัยความสดปั่นแซงนักกีฬาชาติอื่นๆ เข้ามาเป็นที่ 1 แล้วส่งต่อให้ไม้ 3 ศุภักษรปั่นนำเดี่ยวแล้วมาส่งต่อให้กับนาตาลี เป็นไม้ที่ 4 แต่ด้วยความที่เป็นนักกีฬาหญิง จึงสู้ความแข็งแกร่งของอิเซอิ มัตซึโมโตะ นักปั่นของญี่ปุ่น ในรุ่นเยาวชนชาย และชาเคียร์ อดิลอฟ นักปั่นคาซัคสถาน ในรุ่นประชาชนชาย ไม่ได้ นาตาลี จึงโดนแซงหล่นไปอยู่ที่ 3

ส่วนไม้ที่ 5 ญี่ปุ่นส่งโคเฮอิ ยามาโมโตะ ในรุ่นประชาชนชาย ดีกรีแชมป์เอเชียหลายสมัย และเป็นมืออันดับ 1 ของทวีปเอเชีย ด้านคาซัคสถานเป็นอลินา ซาร์กูโลว่า นักปั่นรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง ส่วนของไทยส่งพูนศิริ ลงสู้ โดยในรอบสุดท้ายนี้ พูนศิริปั่นไล่แซงนักกีฬาคาฬซัคสถานสำเร็จ แต่ไล่โคเฮอิ ไม่ทัน จึงเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 สรุปผลการแข่งขัน แชมป์ตกเป็นของทีมญี่ปุ่นตามคาด เวลารวม 1.29.05 ชั่วโมง, ที่ 2 ทีมไทย เวลารวม 1.33.37 ชั่วโมง, ที่ 3 คาซัคสถาน เวลารวม 1.34.31 ชั่วโมง

Advertisement

หลังจบการแข่งขัน พล.อ.เดชาเปิดเผยว่า รู้สึกพอใจกับผลงานของนักกีฬาทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญเงินมาครอง ก่อนแข่งขันไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนัก แต่ได้คุยกับ เรืออากาศเอกสุภัทร หัวหน้าผู้ฝึกสอนว่าเรามีโอกาสติด 1 ใน 3 และนักกีฬาก็คว้าเหรียญเงินมาได้สำเร็จ หลังจากนี้ก็ต้องจับตาดูการแข่งขันในรุ่นอื่น ๆ ทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และรุ่นเยาวชน เนื่องจากสมาคมกีฬาจักรยานฯ ต้องการสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ขึ้นมาประดับวงการ เพื่อสานต่อนักกีฬาทีมชาติรุ่นพี่ ๆ แต่ทั้งนี้เราก็ไม่ทอดทิ้งคนเก่า อย่างเช่น กีรติ ก็รักษาฟอร์มได้ดี หลังจบจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ก็ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ

  “ส่วนการแข่งขันในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ความหวังของเราอยู่ที่ประเภทดาวน์ฮิล ประชาชนชายและหญิง คือ เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ดีกรีแชมป์เอเชีย 2019 และ จ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเรส ดีกรีแชมป์เอเชีย 7 สมัย โดยมี นางสาวธิดา ปัญญาวัน เป็นตัวสอดแทรก หลังจากโค่น วิภาวี ได้ในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 1 ซึ่งมีโอกาสคว้าแชมป์ได้ทุกคน จึงขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์นักกีฬาไทยให้ประสบความสำเร็จด้วย นักกีฬาทีมชาติไทยชุดนี้มีความตั้งใจและอยู่ในระเบียบวินัยทุกคน ทำให้ผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ” พล.อ.เดชากล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.เดชา ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ด้วยว่า ตนเองและคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้วางแผนร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ในการคัดกรองและส่งทีมแพทย์ไปประจำตามจุดต่าง ๆ เช่น สนามบินแม่ฟ้าหลวง โรงแรมที่พัก รวมทั้งมีหน้ากากอนามัยแจกฟรี ขณะที่ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ก็อยู่ในเกณฑ์ที่มีคุณภาพดีถึงดีมาก จึงทำให้ทุกชาติมั่นใจในความปลอดภัย ส่งทีมมาแข่งขันถึง 17 ชาติ นับว่ามากที่สุดที่เคยมีการจัดการแข่งขันมา หากต่างชาติไม่มีความมั่นใจความปลอดภัยของประเทศไทย ก็คงถอนทีมออกไปหมด ดังนั้นเรื่องไวรัสโคโรน่า จึงไม่เป็นปัญหาอุปสรรคแต่อย่างใด

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image