นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2026 (พ.ศ. 2569) ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม
โดยในที่ประชุมได้มีการหารือกัน หลังจากที่คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้รับข้อมูลจากการคุยนอกรอบอย่างไม่เป็นทางการกับไอโอซีเมมเบอร์ มีการแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย ที่จะใช้เมืองหลักคือจังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา ว่าไม่เหมาะสมในการจัดกีฬาระดับเยาวชนเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามในที่ประชุมได้มีการถกเถียงกันในเรื่องนี้อย่างมาก โดยพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษาคณะกรรมการแสดงความเห็นว่าไม่ควรมีการย้ายเมืองเจ้าภาพไปมา รวมถึงใช้สนามแข่งขันหลากหลายแห่ง ควรให้อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ขณะที่ทางฝั่งตัวแทนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชี้ว่าการจัดการแข่งขันจะช่วยเปลี่ยนมุมมองภาพลบที่ต่างชาตินั้นมีต่อเมืองพัทยาได้
ขณะที่ นายพิพัฒน์ ได้สรุปว่าให้คณะกรรมการฯ ไปศึกษาข้อมูลความพร้อมของแต่ละแห่ง พิจารณาตามความจริงว่าควรจะเป็นอย่างไร รวมถึงมองภาพไปยังอนาคตในปี พ.ศ.2569 ว่าแต่ละสถานที่จะมีสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปแค่ไหนบ้าง แล้วนำมาหารือกันในครั้งต่อไป เพื่อจะเลือกว่าจะเสนอเมืองใดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
ภายหลังการประชุม นายพิพัฒน์ กล่าวว่า จากเดิมที่วางแผนกันเอาไว้นั้นได้รับการคอมเมนต์อย่างไม่เป็นทางการมาที่จะนำเอากีฬาเยาวชนไปจัดในเมืองท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมไม่เหมาะสมกับเยาวชน แต่ว่าทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนตัวยังเชื่อว่าชลบุรีและพัทยานั้นเหมาะสมที่จะจัดการแข่งขันอยู่ แต่ที่ห่วงคือก่อนจะถึง 6 ปีข้างหน้านั้นสภาพเมืองจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เรื่องจำนวนประชากร การขนส่ง ความแออัดต่างๆ เนื่องจากจะเป็นประชาคมอาเซียนแล้วด้วย มีโรงงานมากขึ้น จะสามารถคุมเรื่องควันพิษ PM2.5 ได้หรือไม่
ส่วนกรณีที่อินเดียจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพด้วยนั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ว่าไทยจะมีคู่แข่งเป็นอินเดียหรือชาติอื่นๆ ก็นับว่าเป็นความหนักใจทั้งหมดในการจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพรายการระดับโลกแบบนี้ เป็นความหนักใจอย่างมากของทางรัฐบาลเพราะว่าอยากจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เนื่องจากตอบโจทย์ให้เยาวชนเป็นแบบอย่างในด้านการเล่นกีฬา มีสุขภาพแข็งแรงและห่างไกลยาเสพติด
รัฐมนตรี กล่าวปิดท้ายว่า ในเรื่องของการเป็นเจ้าภาพนั้น พิธีเปิดการแข่งขันไม่จำเป็นจะต้องสร้างสนามใหม่ เหมือนอย่างที่ประเทศอาร์เจนติน่าทำ จัดพิธีเปิดที่เสาโอเบลิกส์ในกรุงบัวโนสไอเรส ดังนั้นในไทย ความคิดส่วนตัวอยากให้พิธีเปิดจัดที่กรุงเทพ ปิดถนนราชดำเนินเพื่อจัดพิธีเปิด ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้เห็นถนนราชดำเนินที่สร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ว่ามีความสวยงามมากแค่ไหน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
