‘ก้องศักด’ ชี้ ‘Travel Bubble’ ไม่เอื้อกีฬา เล็งหาทางออกให้ต่างชาติเข้ามาแข่งขันในไทยได้
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงประเด็นที่กระทรวงการท่องเที่ยวเเละกีฬา ได้เสนอโยบาย “Travel Bubble” ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปเเบบการท่องเที่ยวอย่างจำกัดเเบบจับคู่ประเทศ โดยช่วงเเรกอาจผ่อนปรนให้กลุ่มนักธุรกิจจากบางประเทศ ที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศตัวเองนั้นดูคลี่คลายเเล้ว สามารถเดินทางเข้าไทยได้เป็นกลุ่มเเรกๆ ก่อนว่า อาจใช้กับในเเง่ของการทำธุรกิจ เเละการท่องเที่ยวได้ เเต่กับวงการกีฬาน่าจะไม่เหมาะเเละไม่น่าจะตอบโจทย์สักเท่าไร เนื่องจากการจะจับคู่ “Travel Bubble” อนุมัติให้นักกีฬาจากชาตินี้เข้าไทยเเต่ชาตินี้เข้าไทย หรือไม่ให้เข้าไทยนั้นคงทำไม่ได้ เพราะเเน่นอนว่าย่อมจะมีผลกับการจัดเเละดำเนินการเเข่งขันรายการนั้นๆ ด้วย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย เเละกกท. ก็มีเเผนที่จะใช้มาตรการอื่นๆ ที่คิดว่าน่าจะเหมาะสม ตอบโจทย์ เเละมีปลอดภัยเอาไว้เเล้ว เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงจะต้องออกเป็นกฏเเละคู่มือปฏิบัติที่ชัดเจนเเละเป็นทางการออกมาอีกที
“เป็นที่รู้กันว่า ปีนี้เราจะเน้นจัดเเข่งขันกีฬาเเบบปิด เน้นนักกีฬาผู้เข้าร่วมภายในประเทศ อย่างไรก็ตามในระดับของการเเข่งขันอาชีพ อาทิ ฟุตบอลลีก วอลเลย์บอลลีก, กอล์ฟ หรือการเเข่งขันมหกรรมสำคัญ อย่าง กีฬาผู้พิการทางการเคลื่อนไหวโลก 2020 ไอวาส เวิล์ดเกมส์ ที่จ.นครราชสีมา ปลายปีนี้ หรือโมโตจีพี ซึ่งเวลานี้เรายืนยันว่ายังคงมีการเเข่งขันอยู่ เเละการที่จะมีนักกีฬาจากต่างประเทศหลากหลายเชื้อชาติที่ต้องเดินทางเข้ามาประเทศไทย เราก็เริ่มมองถึงมาตรการต่างๆที่จะต้องนำมาใช้ เพื่อสร้างปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของเชื้อ โดยเราประสานกับกระทรวงสาธารณสุข เเละกระทรวงต่างประเทศ ขอให้พิจารณาผ่อนปรนเเละดูเป็นกรณีราย กลุ่ม หรือทัวร์นาเมนต์ไป”
ผู้ว่าการกกท.กล่าวอีกว่า ส่วนการผ่อนปรนก็คงยังต้องยึดหลักความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลดังเดิม อาทิการที่นักกีฬา หรือทีมกีฬาต้องมีใบรับรองเเพทย์ Fit to Fly มีหนังสือรับรองจากสถานทูตประเทศนั้นๆ มีการคัดกรองอีกชั้นเเบบเข้มข้นที่สนามบิน โดยเมื่อเดินทางมาถึงไทยเเล้วอาจต้องมีการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการรัฐ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้อาจจะถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ในช่วงที่เรายังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค
