10 นาทีรู้เรื่อง! ส.ว่ายน้ำพร้อมใจเลือก ‘บิ๊กป้อม’ นั่งประมุขสมัย 2
พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2563 ที่โรงแรมแกรนด์โฟร์วิงส์ คอนแวนชั่น เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ หลังจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมฯ ได้หมดวาระไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยในการประชุมนั้น มีสโมสรสมาชิกทั่วประเทศเข้าร่วม 151 สโมสร จากทั้งหมด 319 สโมสร ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ พล.อ.ศิริชัย เป็นประธานในการเลือกตั้ง ก่อนที่นายศักดิ์ชัย สุริยวงศ์ จากสโมสรกรุงเทพคริสเตียน ได้เสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกสมาคมฯ ซึ่งในที่ประชุมไม่มีการเสนอชื่อใครเพิ่มเติม ก่อนสมาชิกจะพร้อมจะยกมือเป็นเอกฉันท์ให้ พล.อ.ประวิตร ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ต่ออีก 1 สมัย วาระ 4 ปี (พ.ศ.2564-2567) รวมระยะเวลาดำเนินการทั้งหมดราว 10 นาทีเท่านั้น
ภายหลังการประชุม “โค้ชตึก” นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำ กล่าวว่า การทำงานของพล.อ.ประวิตรใน 4 ปีแรกต้องถือว่าเป็นผู้เสียสละเข้ามาทำงานตรงนี้ ท่านพยายามดึงคณะทำงานหลายคนเข้ามาช่วยเพื่อยกระดับสมาคมฯ แต่ก็อาจจะติดขัดในเรื่องของผลงาน ที่ตั้งเป้าว่าจะต้องมีเหรียญเพิ่มเติม ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องของฝ่ายเทคนิค และตนเองก็ลาออกไป 1 ปี พอกลับมาก็ยังดูติดขัด ไม่ต่อเนื่องเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามได้เห็นความตั้งใจของพล.อ.ประวิตร ที่อยากจะยกระดับสมาคมฯ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่สร้างทีมขึ้นมา เชื่อว่าการทำงานสมัยสองของท่านจะนำเอาศักยภาพตัวเองและส่งผู้บริหารที่มีคุณภาพ มีมุมมองกว้างไกล ปรับปรุงคณะทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการฝึกซ้อมที่จะทำอย่างไรให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ อยากให้คณะทำงานเริ่มวางแผนกันได้เลย เพราะว่าทางพล.อ.ประวิตรพร้อมสนับสนุนทุกด้านอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า คณะกรรมการสมาคมฯ จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรนั้น โค้ชตึก กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ขอก้าวล่วง เป็นเรื่องของนายกสมาคมฯ จะเป็นคนฟอร์มทีม ส่วนจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ก็ต้องปรึกษากัน
นายธนาวิชญ์ ยังพูดถึงการพัฒนาสมาคมฯ ในระยะสั้นและระยะยาวว่า ความเห็นส่วนตัวถ้าหากจะให้ได้ผล ระยะสั้นก็ต้องทำงานจริงจัง เพราะว่าซีเกมส์เหลือเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น ต้องดูนักกีฬาที่มีผลงานในปีที่แล้ว มาซ้อมให้เต็มที่ เพื่อขยับจากเหรียญเงินไปเป็นทองให้ได้ ส่วนระยะยาวนั้น การจะก้าวขึ้นไปสู่ท็อป 10 ของโลก จำเป็นต้องสังคายนาใหม่ ทำอย่างจริงจัง อย่างเช่นกระโดดน้ำ เมื่อได้นักกีฬามาต้องฝึกให้เป็นระดับมืออาชีพ ถ้าทำช้าๆ 8 ปีก็ยังไม่เห็นผล แต่ถ้าทำแบบก้าวกระโดด ส่งไปฝึกซ้อมที่จีน 4 ปีก็น่าจะเห็นผล
