ทีมไทย-เทศพร้อมปั่นศึก ‘ทัวร์ออฟไทยแลนด์’ – ‘เสธ.หมึก’ หวังรักษาแชมป์อาเซียน

ทีมไทย-เทศพร้อมปั่นศึก ‘ทัวร์ออฟไทยแลนด์’ – ‘เสธ.หมึก’ หวังรักษาแชมป์อาเซียน

การจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2021” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นักกีฬาต่างชาติเดินทางมาถึงจังหวัดสงขลาครบทุกทีม โดยมีการตรวจใบอนุญาต, เสื้อทีม และการประชุมผู้จัดการทีม ที่โรงแรมบีพี สมิหลา บีซ

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่จังหวัดสงขลาก็ปลอดโปร่ง ไม่มีฝนตกเหมือน 2-3 วันที่ผ่านมา จึงไม่มีอุปสรรคสำหรับการแข่งขัน โดย 15 ทีมที่เข้าร่วมนั้นล้วนแต่ฝีมือไม่ธรรมดา เพราะจากปีก่อนติดปัญหาโควิด-19 แต่ปีนี้ทีมชั้นนำมาหมด ดังนั้นจึงเป็นงานที่ยาก ส่วนตัวแทนทีมไทยทั้ง 2 ทีมยังพอมีลุ้นแชมป์อาเซียน และรุ่นยู-23 สิ่งสำคัญต้องพยายามเก็บชัยชนะประจำสเตจ รวมไปถึงเจ้าความเร็ว และเจ้าภูเขา ตุนคะแนนไว้ให้ได้มากที่สุด

“ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2021 นับว่าเป็นรายการเดียวในทวีปเอเชีย ที่สามารถจัดการแข่งขันได้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย มีทีมระดับอาชีพเข้าร่วมแข่งขันมากมาย ส่วนปีหน้า สหพันธ์จักรยานนานาชาติได้บรรจุการแข่งขันลงปฏิทินเรียบร้อยแล้ว กำหนดแข่งระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน เส้นทางในจังหวัดมุกดาหาร, นครพนม และสกลนคร โดยทั้ง 3 จังหวัดได้ยืนยันมาเรียบร้อยแล้วว่าพร้อมรับเป็นเจ้าภาพ หากสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 เบาบางลง และการเปิดประเทศของรัฐบาลประสบความสำเร็จน่าจะมีทีมเข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก และมีความสนุกเข้มข้นอย่างแน่นอน” พลเอกเดชา กล่าว

ขณะที่ “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล กล่าวว่า สำหรับเส้นทางการแข่งขัน ตนได้พานักกีฬามาฝึกซ้อมล่วงหน้า แต่มีโอกาสฝึกซ้อมจริงจัง 4 วัน เก็บระยะทางได้ประมาณ 600 กิโลเมตร นักกีฬาทุกคนมีสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์ ไม่มีอาการบาดเจ็บ ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพก็ต้องทำผลงานให้ดีที่สุด แต่รูปการแข่งขันในปีนี้จะแตกต่างจากปีที่แล้วมาก เพราะปีนี้มีนักปั่นระดับอาชีพร่วมแข่งขันจากทุกทวีป การแข่งขันจะเข้มข้นขึ้น สำหรับเป้าหมายของไทยคือการรักษาแชมป์อาเซียนให้ได้ รวมทั้งรุ่นยู-23 เราจะไม่ประมาทคู่ต่อสู้ และจะขอสู้อย่างเต็มที่

Advertisement

ด้าน เอ็ดเน่ ฟาน แองเกเลน หัวหน้าทีมไบค์ เอด จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นแชมป์เก่าเวลารวมประเภททีม เปิดเผยว่า ทีมของเรารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาร่วมการแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการแข่งขันในปีนี้ตนก็หวังว่าทีมของเราจะสามารถคว้าแชมป์ได้อีกครั้งหนึ่ง เพราะทีมของเรามีการเตรียมทีมมาอย่างดี และมีความมุ่งมั่นสูง ซึ่งนักปั่นภายในทีมหลายคนเดินทางมาฝึกซ้อมอยู่ที่ประเทศไทยประมาณ 1 เดือนแล้ว และมีการไปฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีความคุ้นชินกับสภาพอากาศในเมืองไทย

ส่วน นิโคเดมัส โฮลเลอร์ แชมป์เก่าเวลารวมประเภทบุคคล จากทีมไบค์ เอด กล่าวว่า ตนและเพื่อนร่วมทีมมีความมุ่งมั่นที่จะทำผลงานให้ดีที่สุด เพราะพวกเราก็มีการเตรียมตัวมาดีพอสมควร แต่ก็ต้องดูสถานการณ์กันวันต่อวัน เนื่องจากปีที่แล้วมีทีมจากต่างชาติเข้าร่วมการแข่งขันไม่กี่ทีม เพราะการพร่ระบาดของโรคไวระสโควิด-19 ทำให้หลาย ๆ ทีมไม่สามารถเดินทางมาแข่งขันได้ แต่ปีนี้มีทีมระดับอาชีพและระดับทีมชาติมาจากเกือบทุกทวีป ถึงแม้ว่าปีที่แล้วตนเองจะคว้าแชมป์มาครองสำเร๋จ แต่คนเราก็ไม่สามารถที่จะยืนเป็นที่ 1 ได้ทุกครั้ง ตนจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ขณะที่ ซึง กุก วู นักปั่นทีมแอลเอ็กซ์ ไซคลิง จากเกาหลีใต้ เผยว่า ทีมของเรารู้สึกประทับใจกับการต้อนรับจากคณะกรรมการจัดการแข่งขัน และการบริการของโรงแรมที่พักอย่างมาก ส่วนการฝึกซ้อมนักปั่นเรายังไม่มีโอกาสซ้อมกับเส้นทางแข่งขันจริงเนื่องจาก 2-3 วันที่ผ่านมาสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย แต่ก็มีการฝึกซ้อมไปบ้างแล้วตอนอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนที่จะเดินทางมายังจังหวัดสงขลา ซึ่งช่วงนี้ที่ประเทศเกาหลีใต้มีสภาพอากาศค่อนข้างหนาว ดังนั้นนักปั่นทีมของเราจึงต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาพอากาศของประเทศไทย ที่เจอทั้งอากาศร้อน และบางวันก็มีฝนตกลงมาด้วย ส่วนความหวังของทีมเราจะพยายามคว้ารางวัลที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะตำแหน่งแชมป์

Advertisement

สำหรับ คอร์แมค แม็กเกียว นักปั่นทีมไวด์ไลฟ์ จากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ทีมของเราเพิ่งมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” เป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเดินทางมายังจังหวัดสงขลา ทีมของเราได้ไปฝึกซ้อมที่จังหวัดภูเก็ต จากนั้นได้เดินทางไปยังกรุงเทพหมานคร จึงมีโอกาสไปฝึกซ้อมที่สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต หรือ สกายเลน ซึ่งเป็นสนามฝึกซ้อมที่ดีมาก เรามีโอกาสไปสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในกรุงเทพฯ นอกจากนั้นยังได้เห็นท้องทะเลทั้งฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย ชายหาดที่มีความสวยงามมาก จัดได้ว่าเป็น “อเมซิ่ง ไทยแลนด์” ส่วนการเตรียมตัวของทีมไวด์ไลฟ์ ก็เตรียมฝึกซ้อมมาอย่างดี และหวังที่จะคว้าแชมป์สเตจให้ๆได้มากที่สุด

ส่วน โนอาห์ กรานิแกน นักปั่นทีมไวด์ไลฟ์ อีกคน กล่าวว่า ชอบประเทศไทยมาก เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมาก และได้ลองรับประทายอาหารไทยหลายอย่าง ที่ชอบมากที่สุดคือ “ผัดไทย” และยังมีอีกหลายอย่างที่ไม่ทราบชื่อ ชอบผลไม้ไทย โดยเฉพาะมะม่วง เป็นผลไม้ที่อร่อยมาก ส่วนความหวังในการแข่งขันตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งเห้าเอาไว้สูงมากนัก แต่จะดูสถานการณ์ทีละสเตจ แต่จะทำผลงานให้ดีที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image