‘สืบศักดิ์’ ออกหน้าชนแหลก! แฉนักกีฬาตะกร้อโดนหักเงินรางวัลเอเชี่ยนเกมส์
จากกรณีที่ “ตุ๊ก” ธิดาวรรณ ดาวสกุล อดีตนักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทอง เอเชี่ยนเกมส์และซีเกมส์หลายสมัย ออกมาจุดประเด็นเรื่องอื้อฉาวในวงการตะกร้อทีมชาติไทย ซึ่งเธอและนักกีฬาทีมชาติหลายคนเคยถูกสต๊าฟโค้ชเรียกรับส่วนแบ่งจากเงินอัดฉีดของนักกีฬา ที่ได้รับจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กวางโจว เมื่อปี 2010
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ก่อนการประชุมสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย “โจ้” พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย เป็นตัวแทนอดีตนักกีฬาเรื่องการยื่นร้องร้องเรียนการทำหน้าที่ของผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย โดยมี นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ อุปนายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับเรื่อง
สืบศักดิ์กล่าวว่า นักกีฬาชุดปัจจุบันยังไม่กล้าออกตัวเพราะจะมีผลต่อการเรียกเก็บตัวในรายการต่อไป แต่หลายคนให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีช่องทางการเงินตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการ เพราะผู้ฝึกสอนและสมาคมมีส่วนแบ่งจากรัฐบาลอยู่แล้ว เช่น เอเชี่ยนเกมส์ ก็จะได้ 5.8 ล้านบาท
“แต่นักกีฬาทีมชุดจะได้คนละ 2 ล้านบาท และอีก 5 คนที่แข่งทีมเดี่ยว จะได้รวม 4 ล้านบาท เงินทั้งหมดรวมคือ 34 ล้านบาท เป็นทีมชุด 24 ล้านบาท ทีมเดี่ยว 10 ล้านบาท แต่ปรากฏว่ามีการหักเงินนักกีฬา นักกีฬาที่แข่งทั้งชุด-เดี่ยวได้เงินเพียง 2.1 ล้านบาทเท่านั้น เกือบ 50% โดยอ้างว่าเป็นการหักเงินเพื่อไปให้นักกีฬาที่ไม่ติดทีมชาติ แต่ก็ยังหายไป 3.3 ล้านบาท ส่วนทีมหญิงหายไป 6.75 ล้านบาท ซึ่งมันเยอะมาก”
สืบศักดิ์กล่าวอีกว่า นักกีฬาได้รับเงินโอนจากกองทุนพัฒนการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งจะมีวิธีหัก 2 วิธี คือโอนเข้าตัวกลางที่เป็นอดีตนักกีฬาคนหนึ่ง กับเบิกเงินสดแล้วเอามาให้ เพื่อไม่ให้มีหลักฐาน แต่นักกีฬาชุดปัจจุบันพร้อมให้ข้อมูล แต่แค่ไม่กล้าออกตัวเท่านั้น
“ที่ผ่านมาในอดีต นิตินัดดา แก้วคำไสย์ ซึ่งเป็นนักกีฬาหญิงที่เก่งมาก พอพ่อออกมาพูดเรื่องนี้ จากนั้นก็หลุดทีมชาติไปเลย อีกคนอย่าง ‘ปูดำ’ พิกุล สีดำ น้องเป็นนักกีฬาเหรียญทองซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ ก็เคยพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องเงินรางวัล แต่เขาก็ถูกตัดออกจากทีมชาติไปเลย จนปัจจุบันต้องออกไปเก็บผลไม้หาเลี้ยงชีพอยู่ที่เกาหลี ซึ่งผมมองว่านักกีฬาที่เล่นเพื่อชาติ ไม่ควรจะต้องลงเอยแบบนี้”
ด้าน สมพร ใจสิงหล อดีตนักกีฬาทีมชาติ เผยว่า ตนเล่นทีมชาติเป็นสิบๆ ปี อย่างเอเชี่ยนเกมส์ ผมจะถูกหักครึ่งหนึ่งของเหรียญทองทีมเดี่ยวตลอด อยากให้นักกีฬาทุกคนทั้งอดีตและปัจจุบันควรได้รับความเป็นธรรม
ร้อยโท สุริยัน เป๊ะชาญ อดีตทีมชาติ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกตนทุกคนประสบพบเจอมาจริงๆ ตนเล่นทีมชาติมา 22 ปี สมัยที่เล่นคิงส์คัพได้เงินครั้งละ 5,000 บาทไม่มีปัญหา แต่พอเงินรางวัลเป็น 1 ล้านบาทก็เกิดปัญหาขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ ปี 2553 ทีมเดี่ยว 5 คน สมัยก่อนจะได้เงินคนละ 1 ล้านบาท ก็ 5 ล้านบาท เงิน 2.5 ล้านบาทจะถูกหักให้ผู้จัดการทีมไปเลย แต่ตอนนั้นเราพูดไม่ได้เพราะเราอยู่ใต้อำนาจของการคุมทีม ถ้าอยากเล่นต่อ เราไม่มีทางเลือก ได้เท่าไรก็ต้องเอา
ก่อนที่ สารวัตรโจ้จะสรุปว่า ผมหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมากรดำเนินงานเตรียมทีมชาติ หวังว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบ ปัญหาเป็นสิบปีที่ผ่านมา และอยากมีการยุติการแต่งตั้งคณะกรรมการทีมชาติก่อน เพื่อให้น้องๆ ได้พูด ให้ได้คำตอบภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนน้องๆ นักกีฬานั้น พี่อยากให้ออกมาพูด พี่ช่วยได้เท่านี้ ถ้าน้องไม่พูด เท่ากับสนับสนุนระบบนี้ และนักกีฬาในอดีตทุกคนควรจะได้รับเงินที่ควรจะเป็นของพวกเขาคืนด้วย