ลิเวอร์พูลทวงตำแหน่งอันดับ 3 ของตารางคืนมาได้หลังบุกเฉือนชัยเวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก ที่สนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ถิ่นเวสต์บรอม เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
หงส์แดงได้ประตูชัยจากลูกโหม่งระยะเผาขนของโรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ แข้งบราซิเลียน ในช่วงปลายครึ่งแรก ทำให้โทนี่ พูลิส กุนซือเวสต์บรอมเสียสถิติเล่นเกมเหย้าในลีกไม่เคยแพ้ให้หงส์แดงมาก่อนทันที
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ลิเวอร์พูลมี 66 คะแนน จาก 33 นัด แซงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปอยู่อันดับ 3 โดยมีแต้มเหนือเรือใบสีฟ้าที่เตะน้อยกว่า 1 นัด อยู่ 2 คะแนน ส่วนเวสต์บรอมยังมี 44 คะแนนเท่าเดิมในอันดับ 8
ภายหลังการแข่งขัน เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหงส์แดง กล่าวว่า โดยรวมถือเป็นเกมที่น่าพอใจ เพราะรู้ว่าการมาเยือนเวสต์บรอมไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากผู้เล่นเวสต์บรอมมีรูปร่างสูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศได้ดี จึงวางแผนไว้ว่าให้หลีกเลี่ยงการเสียลูกเซตพีซ
คล็อปป์กล่าวต่อว่า เทียบกันแล้ว ลูกทีมทำได้ดีกว่าในครึ่งหลัง แต่ถึงครึ่งแรกเกมจะตื้อๆ ไปบ้างก็ถือว่าเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำประตูสวยๆ จากจังหวะเซตพีซ และต้องชื่นชมแนวรับและผู้รักษาประตู ซิมง มิโญเล่ต์ ด้วยที่มีสมาธิกับเกมตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวเยอรมันยืนยันว่า ยังไม่คิดถึงเรื่องโควต้าไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในตอนนี้ เพราะอาร์เซน่อลมีเกมตุนไว้อีกหลายนัด สิ่งสำคัญคือการเก็บ 3 แต้มได้ในนัดนี้ และจะเก็บอีก 3 แต้มในนัดถัดไป ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ด้านโทนี่ พูลิส กุนซือเวสต์บรอม กล่าวว่า ผิดหวังกับการเสียประตูช่วงท้ายครึ่งแรกอย่างมาก และลูกทีมก็ทำได้ไม่ดีในช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลัง แทนที่จะรีบกลับมาลงทำเกมบุก กลับจังหวะขาดๆ เกินๆ กว่าจะตั้งตัวได้ก็ 20 นาทีสุดท้ายของเกมแล้ว
พูลิสตัดพ้อด้วยว่า จังหวะที่ฟีร์มิโน่จะโหม่งทำประตูนั้น น่าจะไปฟาวล์เคร็ก ดอว์สันก่อนแล้ว เพราะจังหวะก่อนหน้านั้นที่ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ได้โอกาสทำประตูคล้ายๆ กัน กรรมการก็เป่าว่าเฟล็ตเชอร์ไปขวางนายทวารคู่แข่ง
