คลุกวงหุ้น : “ทรีนีตี้” แนะเลือกลงทุนในหุ้น พร้อมกำเงินสดไว้ด้วย หลังหุ้นไทยมีราคาแพง แถมลงยาก (ชมคลิป)
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปรับระดับขึ้นมาได้ร้อนแรงมาก กรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้ จึงอ้างอิงจากผลกำไรในปี 2564 เพราะหากอิงตามผลกำไรปีนี้ คงไม่สามารถปรับขึ้นได้แล้ว โดยให้แนวรับที่ระดับ 1,240 จุด ส่วนแนวต้านที่ระดับ 1,420 จุด
นายณัฐชาตกล่าวว่า ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ตลาดดูเหมือนจะมองข้ามปัจจัยดังกล่าวไป และให้น้ำหนักกับปัจจัยบวกหรือข่าวดีมากกว่า ทั้งที่จริงความสัมพันธ์ของสหรัฐและจีน ดูเหมือนจะเริ่มไม่ค่อยดีมากนักมาสักพักหนึ่งแล้ว และอาจมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องจับตาดูเรื่องของค่ากลางเงินหยวน โดยหากจีนทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่ามากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นแนวโน้มที่ไม่ค่อยดีมากนัก เพราะสหรัฐอาจหยิบยกประเด็นนี้ มาเป็นประเด็นในการกล่าวอ้างว่า จีนบิดเบือนค่าเงินหยวน เพื่อเอาเปรียบในแง่ของการนำเข้าและส่งออกสินค้าได้ และกลับมาสู่การทำสงครามการค้ารอบใหม่ขึ้นได้
นายณัฐชาตกล่าวว่า ส่วนปัจจัยในประเทศ ต้องติดตามมาตรการป้องกันขายชอร์ตเซลในราคาสูงกว่าตลาด (Uptick Rule) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมาได้กว่า 300 จุดแล้ว โดยมาตรการนี้จะสิ้นสุดภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งหากมีการขยายการใช้มาตรการต่ออีก ซึ่งตลท. ได้ส่งสัญญาณมาแล้วว่าจะขยายเวลาใช้มาตรการเพิ่มอีก 3 เดือน ซึ่งต้องติดตามต่อว่า จะมีการขยายเวลาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยหากขยายเวลาใช้มาตรการดังกล่าวเพิ่มอีก ก็จะทำให้ดัชนีหุ้นปรับลดลงได้ยากต่อไป เพราะพอมีมาตรการนี้เข้ามา มูลค่าการขายชอร์ต (Short Sell) หายไปอย่างมีนัยยะมาก จากเดิมที่มีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อวัน เหลือไม่ถึง 1,000 ล้านบาทต่อวันเท่านั้น
“สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยดีขึ้นเยอะมาก โดยมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขของไทยถือว่าทำได้ดี และแข็งแกร่งมากกว่าหลายประเทศ ทำให้ความกังวลการกลับมาระบาดระลอก 2 อาจมีน้อยลง ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา เป็นคีย์สำคัญ ที่หากยังไม่เปิดก็น่าจะเป็นแนวโน้มสำคัญที่ทำให้การกลับมาระบาดรอบ 2 ของไทยยังสามารถยับยั้งได้ต่อไป สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ ในภาวะที่ตลาดแพงแล้วแต่ลงยาก ให้เลือกลงทุนใน 2 กลุ่มหลัก แต่ไม่อยากให้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนจนหมด แต่อยากให้ถือครองเงินสดในสัดส่วนที่พอเหมาะแทน” นายณัฐชาตกล่าว
ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!
