นักลงทุนทั่วโลกลังเลหลายปัจจัย ส่งผลเงินบาทกลับมาแข็งค่า
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS)กล่าวว่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้5สิงหาคมอยู่ที่ระดับ 31.03 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 31.09 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ 30.90-31.10 บาทต่อดอลลาร์
ในคืนที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นต่ออีก 0.4% นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี และมีความหวังเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 15 สิงหาคม กลับมาเป็นประเด็นหนุนระยะสั้น นอกจากนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐก็ส่งสัญญาณของการฟื้นตัวต่อเนื่อง ล่าสุดยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (US Durable Goods Orders) รายงานฟื้นตัวอีก 7.6% ในเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ดี นักลงทุนกลับลังเลที่จะกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น เห็นได้จากพันธบัตรที่มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องแม้ยีลด์ปัจจุบันจะอยู่ในระดับที่ต่ำ กดให้บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10ปี ปรับตัวลงเหลือเพียง 0.51% พร้อมกับบอนด์ยีลด์เยอรมันที่ทำระดับต่ำสุดในรอบเดือน -0.56%
ประเด็นดังกล่าว บวกกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ ทำให้นักลงทุนลดการถือดออลลาร์ลง จนดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) อ่อนค่า 0.4% และดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) เป็นแกนนำแข็งค่า จากราคาทองคำที่บวก 2.0% ทำจุดสูงสุดใหม่เหนือ 2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น 1.3% ด้วยความกังวลกับความไม่สงบในตะวันออกกลาง
ส่วนเงินบาทก็เคลื่อนไหวตามการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นหลัก นักลงทุนส่วนใหญ่มองไปที่การประชุมในกรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งตลาดเชื่อว่ากนง.จะคง อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% แม้จะมีการปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจลง แต่เราเชื่อว่าทิศทางของนโยบายการเงินจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินมาก และมองว่าพื้นฐานของเงินบาทจะต้องระวังจริงจัง ก็ต่อเมื่อการส่งออกลดลงจนไทยกลับไปขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
