ครั้งแรกเปิดภาพที่ไม่เคยเผยแพร่มาก่อน “สุเมธงานยังไม่เสร็จ”

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 ตุลาคม ที่ห้องประชุมราชปนัดดาสิรินธร อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราช ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปาฐกถา “ในหลวงแห่งแผ่นดิน” ตอนหนึ่งว่า ตนมีโอกาสถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2524-2559 ถือเป็น 35 ปีแห่งการเรียนรู้ที่พระองค์เป็นดั่งพระบรมครูคอยสอนทุกอย่าง

โดยพระองค์มีรับสั่งกับตนว่า “ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรให้ นอกจากความสุขร่วมกันในการทำประโยชน์ให้ผู้อื่น” ซึ่งเป็นประโยคที่ยึดมั่นทำงานมาตลอด

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา

ทั้งนี้ ตลอด 35 ปี พระองค์ทรงสอนซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีท่าทีว่าจะจบ แต่ก่อนอาจไม่ได้ทบทวนความคิด จนวันที่พระองค์จากไปแล้วถึงได้มานั่งทบทวน ก็พบ 3 ประโยคสำคัญที่ทรงสอนคือ 1.มองทุกอย่างที่ฉันทำ ต้องมองให้เกิดคำถามว่าทำอะไรทำไม จะได้เกิดปัญญา 2.จดทุกอย่างที่ฉันพูด เพื่อเตือนความจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และ 3.สรุปทุกอย่างที่ฉันคิด ตรงนี้ตอนแรกคิดในใจว่าใครจะไปหยั่งลึกว่าพระองค์คิดอย่างไร แต่ก็ช่วยทำให้รู้ว่าอนาคตต้องทำอะไรต่อไป

Advertisement

ดร.สุเมธ กล่าวอีกว่า หลายคนอาจลืมว่าใน 1 ปี พระองค์ประทับอยู่ในกรุงเทพฯ 4 เดือน ที่เหลือประทับอยู่ต่างจังหวัด เสด็จฯไปจังหวัดเชียงใหม่ สกลนคร ไกลกังวล และนราธิวาสแห่งละ 2 เดือน ซึ่งไม่ใช่เสด็จฯ แปรพระราชฐานเพื่อตากอากาศ แต่เป็น 8 เดือนที่เหนื่อยยากที่สุด เพราะจะเสด็จฯ ไปในพื้นที่ที่คนไม่ไปกัน เนื่องจากทุรกันดารลำบากสุดๆ ขณะที่การประทับที่กรุงเทพฯ ก็ทรงงานจนมีโครงการแก้ปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนมากมาย กระทั่งทรงพระประชวรก็ยังทรงห่วงประชาชน

Advertisement

“อย่างช่วงเย็นวันหนึ่งที่ต้องถวายเข้ารับการผ่าตัด ก็มีรับสั่งให้ผมที่ถวายงานด้านน้ำและไอที นำจอคอมพิวเตอร์มาติดตั้งข้างเตียงเพื่อทอดพระเนตรก่อนถวายการผ่าตัด รับสั่งว่ามีพายุตรงมหาสมุทรแปซิฟิกเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนาม และอาจเข้ามาที่ไทยด้วย ฉะนั้นไม่เพียงพระราชทานโครงการพระราชดำริมากมายเพื่อคนไทย แต่พระองค์ยังพระราชทานพระวรกายให้พวกเราด้วย”

“พระองค์มีรับสั่งสุดท้ายกับผมเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ว่า สุเมธงานยังไม่เสร็จนะ งานก่อประโยชน์เพื่อแผ่นดินไม่มีวันหมด ผมก็นำมาคิดถึงเรื่องพระมหาชนกที่ต้องว่ายน้ำเอาชีวิตรอด แม้อาจไม่เห็นฝั่งแต่ก็ต้องว่ายต่อไป ก็เหมือนกับงานก่อประโยชน์ให้แผ่นดินที่ต้องทำต่อไปไม่มีวันหยุด

ฉะนั้นในวันที่พระองค์จากไปแล้ว หน้าที่ดูแลแผ่นดินต่อไปคือลูกๆ หากยังมีเรี่ยวแรงยังมีชีวิต งานไม่มีวันเสร็จ ซึ่งงานในที่นี้คือการทำหน้าที่ของตัวเองด้วยคุณธรรม นั่นคือสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา

อย่างไรก็ตาม หลายคนบอกว่าอยากทำดีเพื่อพ่อ ก็ต้องถามต่อว่าแล้ววันนี้ทำอะไรไปแล้ว ก็ฝากถึงประชาชน” ดร.สุเมธกล่าว

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image