นายจักรพงศ์ กาญจนาคม อาสาจักรยาน พล.1.รอ กลุ่มจิตอาสาจักรยานลาดตะเวนสนามหลวง กล่าวว่า ได้มาทำจิตอาสาดูแลประชาชนที่มาเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา และวันนี้ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวัฒนธรรมให้มาดูแลเรื่องให้ประชาชนออกจากบริเวณในแต่ละรอบของการเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศพิมานนฤมิต ตั้งแต่วันที่ 2-30 พฤศจิกายน โดยในแต่ละวันจะมีจิตอาสาเข้าประจำจุดต่างๆ ในบริเวณนิทรรศการ 40-50 คน รวมทั้งยังมีจิตอาสาดูแลประชาชนอยู่โดยรอบบริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งการที่ได้มาทำงานจิตอาสาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและการทำงานต่อไป เต็มใจและตั้งใจถวายงานสุดความสามารถ ซึ่งไม่กระทบกับการทำงานแต่อย่างใด เพราะประกอบอาชีพอิสระ
“รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ทำหน้าที่ถวายงานรับใช้ในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างใกล้ชิด ซึ่งตัวเองตั้งใจทำงานเพื่อเป็นการถวายงานเป็นครั้งสุดท้าย และตั้งใจจะน้อมนำแนวทางความพอเพียงของพระองค์มาปรับใช้ในชีวิต คือใช้เท่าที่จำเป็น และไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ทั้งนี้ตลอดที่ได้ทำหน้าที่ไม่รู้สึกเหนื่อยล้า หรือท้อแท้ เพราะยึดพระราชดำรัสของพระองค์เป็นแนวทาง ที่ว่า ปิดทองหลังพระ ซึ่งทำให้พระองค์นั้นสมบูรณ์ได้และในที่สุดก็จะพอกพูนออกมาจนล้นถึงด้านหน้าเอง แม้ว่าทำงานดูแลประชาชนอาจจะไม่มีโอกาสได้ชมพระเมรุมาศ อย่างใกล้ชิด แต่ที่ได้มองรู้สึกว่าพระเมรุมาศสมพระเกียรติพระองค์เป็นอย่างยิ่ง” นายจักรพงศ์ กล่าว
นางวรรณี รุ่งสัทธรรม ครูโรงเรียนเผดิมศึกษา เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ที่ได้พานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6 รวมกว่า 350 คน มาชมนิทรรศการพระเมรุมาศพิมานนฤมิต กล่าวว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้มาชมพระเมรุมาศองค์จริง พร้อมทั้งพานักเรียนมาด้วย ซึ่งวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียน แต่ขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกเศร้าและคิดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะพระองค์เป็นหนึ่งเดียวในโลกนี้ที่ไม่มีใครมาเทียบได้ ในฐานะประชาชนของพระองค์ได้น้อมนำพระราชดำรัสและพระราชดำริต่างๆ มาใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งนำมาสอนต่อให้กับเด็กๆ ซึ่งทางโรงเรียนได้มีการนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์ด้านต่างๆ ของพระองค์มาสอนในหลักสูตรด้วย
ด.ญ.ชาริกา ขุนธีรสรรค์ อายุ 9 ปี ชั้นป.4 โรงเรียนเผดิมศึกษา กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้มาชมนิทรรศการของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงเป็นพระราชาที่รักประชาชนทุกคน ซึ่งหนูตั้งใจว่าจะเป็นคนดี รักคนอื่นเหมือนอย่างพระองค์ และเป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่
นายสมอาจ ฉลาดล้น อายุ 59 ปี ครูที่นำนักเรียนกว่า 400 คนจากโรงเรียนเผดิมศึกษา เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เข้าร่วมทดสอบระบบนำประชาชนเข้าชมนิทรรศการฯ เผยว่า เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันทดสอบระบบ คนจึงยังไม่เยอะ ทำให้สามารถพาเด็กมาร่วมชมนิทรรศการฯ เพราะครูดูแลได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเด็กๆอยู่กันเป็นกลุ่ม และวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกเด็กๆจึงมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ และทุกคนดีใจมาก
“ก่อนจะมาทางครูก็ได้ประสานไปยังผู้ปกครองว่ายินดีให้บุตรหลานเข้าร่วมชมพระเมรุมาศไหม ปรากฏว่าผู้ปกครองดีใจมาก โดยบางรายให้เหตุผลว่าด้วยภาระงานก็ยังไม่สามารถหาเวลาพาบุตรหลานไปชมได้เลย จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งและถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ในฐานะที่เป็นครู ผมก็อยากให้นักเรียนได้มาเห็นและซึบซับ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมของไทย ที่คงไม่มีครั้งไหนจัดสร้างได้สมพระเกียรติอย่างนี้อีกแล้ว นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังจัดกิจกรรมต่อเนื่องให้กับนักเรียน เมื่อกลับไปต้องเขียนเล่าความประทับใจและความรู้ที่ได้จากการรับชมพระเมรุมาศในวันนี้ด้วย” ครูสมอาจกล่าว
