สำนักพระราชวังเผยหลังปิดนิทรรศการจะนำส่วนต่างๆ ของพระเมรุมาศจัดแสดงพิพิธภัณฑ์

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันที่ 21 ของการเปิดให้เข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ ท้องสนามหลวง ว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนจากทุกสารทิศเดินมาทางชมนิทรรศการอย่างไม่ขาดสาย โดยต่างนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน โดยยอดตั้งแต่วันที่ 2-21 พฤศจิกายน มีประชาชนมาชมนิทรรศการทั้งสิ้น 1,530,203 คน

ทั้งนี้ เวลา 10.00 น. นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา ลงพื้นที่ตรวจต้นไม้ต่างๆ ที่ปลูกโดยรอบพระเมรุมาศและอาคารประกอบพระเมรุมาศ โดยมี ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ สำนักพระราชวัง ร่วมตรวจด้วย

ท่านผู้หญิงบุตรี เปิดเผยว่า ขอชื่นชมจิตอาสาที่ได้มาช่วยงานพระราชพิธีในครั้งนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 วันที่มีการเปิดให้เข้าชมนิทรรศการ มียอดผู้เข้าชม 1,530,208 คน จึงอยากเชินชวนให้ประชาชนทุกคนได้เข้ามาชมความงดงามอย่างสมพระเกียรติ โดยหลังเสร็จสิ้นการเปิดให้เข้าชมนิทรรศการในครั้งนี้ จะนำสิ่งปลูกสร้างและอาคารประกอบหลังต่างๆ ไปจัดเก็บไว้ตามสถานที่ต่างๆ โดยงานสถาปัตยกรรม อาทิ ลวดลายไทยตามอาคารหลังต่างๆ จะนำไปจัดเก็บ จัดแสดงที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช คลอง 5 ปทุมธานี ส่วนงานประณีตศิลป์ จิตรกรรม อาทิ ฉากบังเพลิง พระโกศจันทน์ จะนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และงานประติมากรรมต่างๆ เช่น งานปั้น เทวดา สัตว์หิมพานต์ จะนำไปเก็บเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ไว้ที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เพื่อให้นายช่างรุ่นต่อไปได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป

Advertisement
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ

ขณะที่ นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุช พัทยา ได้นำเจ้าหน้าที่เข้ามาเปลี่ยนต้นดาวเรือง ซึ่งมาจัดเปลี่ยนทุกวัน วันละประมาณ 2,000 ต้น ขณะนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว 200,000 ต้น พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์ตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับ ให้สวยงามอยู่เสมอ ทั้งนี้ ในส่วนต้นมะขาม ที่ได้ย้ายออกในช่วงการจัดงานพระราชพิธี ประมาน 44 ต้น ก็ได้เคลื่อนย้ายไปดูแลตามสถานที่ต่างๆ ของสวนนงนุช โดยจัดทีมรุกขกร ได้ดูแลต้นมะขามทุกต้นอย่างสมบูรณ์ โดยมีบางต้นได้มีการตัดต่อพันธุกรรม เพื่อนำกลับมายังสถานที่เดิมหลังจากคืนพื้นที่ท้องสนามหลวง

ด้าน นางสำราญ ปั่นอินทร์ อายุ 65 ปี มาพร้อมนางถนอม เชื้อสุวรรณรักษ์ อายุ 69 ปี และนางลัดดา จีนครัว อายุ 53 ปี ชาวอำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวร่วมกันว่า แม้ช่วงนี้ที่ประจวบคีรีขันธ์จะมีฝนตกหนักทุกวัน แต่พวกเราก็ตั้งใจเดินทางมาชมนิทรรศการเป็นครั้งแรก ซึ่งเดิมเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ว่าสวยงามแล้ว แต่พอมาชมสถานที่จริงยิ่งรู้สึกประทับใจ โดยเฉพาะพระเมรุมาศที่ทำได้สวยงามมาก ทั้งนี้ เมื่อได้ขึ้นไปบนพระที่นั่งทรงธรรม ได้เห็นนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในหลวงร.9 ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าพวกเราโชคดีแล้วที่เกิดในรัชกาลที่ 9 เพราะพระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนมากมาย อย่างไรก็ตาม เวลา 1 ชั่วโมงที่ให้เข้าชม พวกเรายังเดินชมไม่ครบเลย คิดว่าหากมีโอกาสต้องกลับมาดูในส่วนที่เหลืออีก และเห็นด้วยที่จะขยายวันเปิดเข้าชมนิทรรศการออกไป

(จากซ้าย) สำราญ ถนอม และลัดดา
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image