เทนนิสเปิดใจเตะระทึกคว้าชัย เผยรองเท้าสีนำโชค คำพูดโค้ชเชช่วยปลุกใจ

เทนนิสเปิดใจเตะระทึกคว้าชัย เผยรองเท้าสีนำโชค คำพูดโค้ชเชช่วยปลุกใจ

“น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวไทยเบอร์ 1 ของโลกในรุ่น 49 กก.หญิง เปิดใจภายหลังผงาดคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกให้กับทีมเทควันโดไทย และเหรียญแรกให้กับทัพนักกีฬาไทย ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่สนามมาคูฮาริ เมสเสะ ฮอลล์เอ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม

“น้องเทนนิส” กล่าวว่า ในการแข่งขันช่วงท้ายเกมไม่รู้ว่าเวลาเหลืออยู่เท่าไร แต่อยากทำให้เต็มที่จนกว่าสัญญาณหยุดเกม เพราะว่าแต้มเราตามอยู่ แต่พอเสียงมันตึ้งว่าได้คะแนนก็เห็นแล้วถอยออกมา ตอนนั้นบอกตัวเองแค่ว่ายังมีเวลาเหลืออยู่แค่นั้นเอง ตัองทำให้เต็มที่ ถ้าเต็มที่ แล้วหมดเวลา แพ้ก็แพ้ ก็ไม่เป็นไร

“หนูไม่กดดัน และคุมตัวเองอยู่ แต่เขาก็แก้ทางเรา ส่วนเราก็แก้ทางเขา แต่ก็ยังเล่นได้ไม่ดี ก็พยายามคุมตัวเอง มีสมาธิ มีเวลา เราทำได้ สำหรับรอบชิงฯ ยากน้อยกว่ารอบ 8 คนที่เจอเวียดนาม เพราะเราตามหลังเยอะ เวียดนามเขาก็แก้ทางเรา ส่วนคู่แข่งสเปนเราได้ศึกษาเขามาจากวิดีโอ และตอนซ้อมก็เล่นตามเกมของเขา คู่แข่งเขากำลังสด แต่เราก็เชื่อตัวเองว่ามีประสบการณ์มากกว่า” น้องเทนนิสกล่าว

จอมเตะสาวไทยกล่าวอีกว่า เมื่อคืนนอนไม่หลับ เพราะตื่นเต้น ก็มานอนงีบที่สนามบ้าง รู้สึกคิดถึงแม่ คิดถึงยาย บอกพวกท่านให้ช่วยลูกด้วย ช่วยทำให้สำเร็จ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเชียร์มาตลอด ฝากเชียร์พี่ๆ นักกีฬาทีมชาติคนอื่นด้วย ให้ทุกคนเล่นให้เต็มที่ ไม่ต้องกดดัน แค่เต็มที่ สนุกไปกับเกม สำหรับเป้าหมายส่วนตัวหลังจากนี้อยากได้เหรียญทองชิงแชมป์โลกสมัยที่ 3, เอเชี่ยนเกมส์ สมัยที่ 2 และป้องกันแชมป์โอลิมปิก สมัยหน้า ในปี 2024 เพราะเหลือเวลาอีกไม่นาน

Advertisement

นัองเทนนิสกล่าวอีกว่า ส่วนรองเท้าสีชมพูเป็นสีนำโชค ซึ่งก็มีทั้งผ้าเช็ดหน้า นาฬิกา รองเท้า และก็บางอย่างที่พูดไม่ได้ เป็นสีชมพูหมด หลังจากนี้อยากกินเค้ก พิซซ่า หลายอย่าง เพราะลดน้ำหนักมาตั้งนานแล้ว ส่วนสิ่งที่ยากที่สุดน่าจะการฝึกซ้อมที่โหดหินมาก เก็บซ้อมเหนื่อยมาก โค้ชบอกว่าน้ำตาที่เสียไปตอนซ้อมก็เพื่อวันนี้ ลงไปเล่นให้เต็มที่ ตอนลงไปเล่นเราก็คิดถึงความยากลำยากกว่าจะถึงวันนี้ เราต้องซ้อมเป็นพันครั้ง และซ้อมกับผู้ชาย

น้องเทนนิสกล่าวในตอนท้ายว่า หลังจากชนะ โค้ชเช ยอง ซ็อก มาพูดว่า “เราทำได้แล้ว ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ทำได้ เพราะเราก็รอนานแล้ว” แต่ก่อนแข่งก็ไม่มีใครกดดันเลย โค้ชบอกว่าไม่ได้เหรียญไม่เป็น ก็จะอยู่ข้างๆ แต่ส่วนตัวคิดว่าอยากได้เหรียญทอง เพราะเราเจอคู่ต่อสู้มาหมดแล้ว ยกเว้นคนในรอบชิง แต่เราก็ใช้ประสบการณ์จนคว้าชัยในที่สุด

นอกจากนี้ หลังจากจบการแข่งขัน “น้องเทนนิส” ได้โทรเฟซไทม์หา “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ซึ่งได้แสดงความยินดีกับเหรียญทองที่ทำได้สำเร็จ ยอมรับหัวใจนิ่งจริงๆ โดนนำคู่แข่งทำแต้มนำ แต่ยังนิ่งเดินเตะจจชนะ

Advertisement

ผศ.พิมล เปิดเผยว่า ตอน พาณิภัค เฟซไทม์มามีทั้งโค้ชเช และผู้จัดการทีมอยู่ด้วย ทุกคนดีใจ และตื่นเต้นกันมาก ซึ่งได้ขอบคุณ เทนนิส ที่ทำให้คนไทยมีความสุขในยามนี้ และขอบคุณ รามณรงค์ ที่ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าได้ใจคนไทยแล้ว โดยคุณทั้ง 2 คน เป็นที่น่าภาคภูมิใจแก่คนไทยทุกคน ซึ่งหวังว่าเหรียญทองนี้จะทำให้คนไทยมีความสุข และต้องขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนของสมาคมที่ทำให้มีวันนี้ ทั้ง ธนาคารอาคารสงเคราะห์, โค้กหาดทิพย์, สิงห์, เอฟบีที และเมืองไทยประกันชีวิต รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย

สำหรับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ สร้างสถิติไร้พ่ายติดต่อกันยาวนานถึง 975 วัน หรือ 2 ปี 8 เดือน 2 วัน นับตั้งแต่แพ้ครั้งสุดท้ายให้กับ คิม โซฮุย จากเกาหลีใต้ ในรายการเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ไฟนัล 2018 ซึ่งเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 นับเป็นแชมป์เมเจอร์รายการที่ 40 ของน้องเทนนิส พร้อมกับทำให้เธอกวาดครบได้ทุกแชมป์ในรายการระดับนานาชาติเป็นที่เรียบร้อย

พาณิภัค ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญในวงการกีฬาไทย โดยที่ผ่านมา นักเทควันโดไทยที่เคยได้เหรียญโอลิมปิกเกมส์ ประกอบด้วย “วิว” เยาวภา บุรพลชัย คว้าเหรียญทองแดง รุ่น 49 กก.ในโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เป็นเหรียญแรกของกีฬาเทควันโด, “สอง” บุตรี เผือดผ่อง คว้าเหรียญเงิน รุ่น 49 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นเหรียญเงินแรก, “เล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ ได้เหรียญทองแดง รุ่น 49 กก.โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, “เทม” เทวินทร์ หาญปราบ คว้าเหรียญเงิน รุ่น 58 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล และพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ก็ได้เหรียญทองแดง รุ่น 49 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่รีโอเดจาเนโรด้วย และเป็นครั้งแรกที่กีฬาเทควันโดไทยได้ 2 เหรียญในโอลิมปิกเกมส์ครั้งเดียว

จากเหรียญทองประวัติศาสตร์ในโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ส่งผลให้ พาณิภัค เป็นสุดยอดนักกีฬาไทยคนที่ 3 ที่คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์มากกว่า 1 เหรียญ โดยนักกีฬาที่ทำได้ก่อนหน้านี้คือ “เติ้ล” มนัส บุญจำนงค์ ได้เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท 64 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2004 และเหรียญเงิน รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท 64 กก. ในโอลิมปิกเกมส์ 2008 และ “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว คว้า 2 เหรียญเงิน ยกน้ำหนักหญิง รุ่น 58 กก.โอลิมปิกเกมส์ 2012 และ 2016

เหรียญทองของเทควันโดไทยนับเป็นเหรียญที่ 10 ในประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทย ประกอบด้วย

ปี 1996 ที่แอตแลนตา สมรักษ์ คำสิงห์ มวยสากลสมัครเล่น รุ่นเฟเธอร์เวท

ปี 2000 ที่ซิดนีย์ วิจารณ์ พลฤทธิ์ มวยสากลสมัครเล่น รุ่นฟลายเวท

ปี 2004 ที่เอเธนส์ อุดมพร พลศักดิ์ ยกน้ำหนักหญิง 53 กก., ปวีณา ทองสุก ยกน้ำหนักหญิง 75 กก., มนัส บุญจำนงค์ มวยสากลชาย รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท

ปี 2008 ที่ปักกิ่ง ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ยกน้ำหนักหญิง 53 กก., สมจิตร จงจอหอ มวยสากลสมัครเล่น รุ่นฟลายเวท

ปี 2016 ที่รีโอเดจาเนโร โสภิตา ธนสาร ยกน้ำหนักหญิง รุ่น 48 กก., สุกัญญา ศรีสุราช ยกน้ำหนักหญิง รุ่น 58 กก.

ปี 2021 ที่โตเกียว พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image