หญิงดับลูกเด้งโรมาเนีย ทะยาน 16 คน ทำสถิติเข้าลึกสุดปิงปองไทยในโอลิมปิก
“หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร นักปิงปองสาวไทยวัย 26 ปี มืออันดับ 41 ของโลก มือวางอันดับ 22 ของรายการ ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ 3 สมัยซ้อน ไล่ตบเอาชนะ เอลิซาเบธ ซามาร่า มืออันดับ 29 ของโลก มือวางอันดับ 15 จากโรมาเนีย วัย 31 ปี 4-1 เกม (11-7, 11-6, 4-11, 11-8, 11-2) ในเทเบิลเทนนิส ประเภทหญิงเดี่ยว การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 โตเกียว 2020 ที่โตเกียว เมโทรโพลิแทน ยิมเนเซียม เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม
สุธาสินี ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายไปรอพบผู้ชนะระหว่าง มิมะ อิโต้ มืออันดับ 2 ของโลก มือวางอันดับ 3 ของเจ้าภาพญี่ปุ่น หรือ ฟู่ หยู มืออันดับ 55 ของโลก มือวางอันดับ 32 จากโปรตุเกส ในวันที่ 27 กรกฎาคม เวลาไทย 18.30 น.
ทั้งนี้ สุธาสินี สามารถทำสถิติผ่านเข้ารอบโอลิมปิกเกมส์ได้ลึกที่สุดนับตั้งแต่เคยมีนักเทเบิลเทนนิสไทยเข้าร่วมแข่งขันมา โดยสถิติสูงที่เคยทำไว้คือ “แป๋ว” นันทนา คำวงศ์ อดีตตบสาวทีมชาติไทยที่สามารถผ่านเข้ารอบ 32 คน ประเภทหญิงเดี่ยว ในโอลิมปิกเกมส์ปี 2004 และ 2016
หลังการแข่งขัน สุธาสินี กล่าวว่า วันนี้พยายามเล่นตามแผนที่เตรียมไว้ก่อนแข่งก็คือ จะเน้นลูกสั้นให้เยอะ เพราะคู่แข่งจะตีลูกสั้นไม่ค่อยดี และก็พยายามตีเข้าแบ๊หแฮนด์ของคู่แข่งให้เยอะซึ่งทั้งหมดก็สามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้สำเร็จ ส่วนแมตช์ต่อไปก็เป็นรอบ 16 คนแล้ว ก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาเชียร์ และก็จะทำให้เต็มที่ที่สุด
“บิ๊กตูน” นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับสุธาสินีในตอนนี้อย่างที่ทุกคนเห็นว่าน้องหญิงนั้นผลงานดีวันดีคืน และเจ้าตัวมักจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นอยู่เสมอๆ ตั้งแต่การควอลิฟายเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้มาได้ก็เป็นการควอลิฟายในรอบระดับโลก ไม่ใช่ระดับเอเชีย หรืออาเซียนแบบครั้งก่อนๆ ซึ่งนักเทเบิลเทนนิสไทยยังไม่เคยทำได้ อีกทั้งการผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 คนสุดท้ายในตอนนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ดังนั้นตนมองว่าเกมในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วน “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง ถือว่าผลงานดีเกินคาดมากๆ ส่วนตัวพอใจมากๆ กับผลงานน้องทิพย์มาก เพราะก่อนไปแน่นอนว่าเห็นแล้วว่าเขาซ้อมเต็มที่ แต่ก็อดห่วงไม่ได้กับการไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก กลัวว่าเขาจะกดดันหรือเกร็งหรือไม่ แต่พอถึงเวลาแข่งจริงช่วงแรกๆ ก็เหมือนจะมีแอบตื่นเต้นบ้าง แต่พอเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มทำได้ดีขึ้น และสามารถทำผลงานได้เกินความคาดหมาย ยิ่งในแมตช์สุดท้ายที่พบกับ คาซูมิ อิชาคาว่า ที่มีดีกรีระดับท็อป 10 ของโลก แต่น้องทิพย์ยังสามารถเอาชนะได้ถึง 2 เกม จึงพูดได้เลยว่าโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ทิพย์สอบผ่านสบายเลย และจะเป็นกำลังหลักให้แก่ทีมชาติไทยไปได้อีกนาน
