ชั้นเชิงเหนือกว่า! สุดาพรไล่ต้อนอินเดียเอกฉันท์ 5-0 เข้ารอบ 8 คนชนดาวรุ่งผู้ดี

ชั้นเชิงเหนือกว่า! สุดาพรไล่ต้อนอินเดียเอกฉันท์ 5-0 เข้ารอบ 8 คนชนดาวรุ่งผู้ดี

“แต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกสาวไทย วัย 29 ปี ขึ้นเวทีโอลิมปิกสมัยแรก ดวลหมัดกับ บาสส์ ซิมรันจิต คาอูร์ กำปั้นตัวเต็งอันดับ 4 ของรายการจากอินเดีย ในการแข่งขันมวยมวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลต์เวต 60 กก.หญิง รอบ 16 คนสุดท้าย กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่สังเวียนโกกุกิคุง อารีน่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม

การชกไฟต์นี้ในยกแรกเริ่มขึ้นมาต่างคุมเชิงดูจังหวะกันอยู่ ก่อนที่สุดาพรชิงจังหวะฮุกหมัดซ้ายเข้าเป้าทำแต้มนำ จากนั้นยกสองกำปั้นอินเดียเดินหน้าลุยใส่ ขณะที่น้องแต้วอาศัยชั้นเชิงดักต่อย และยกสุดท้ายสุดาพรยังต่อยได้ชั้นเชิงเหนือกว่า ครบยกกรรมการชูมือให้ สุดาพร เป็นฝ่ายชนะคะแนนไปแบบเอกฉันท์ 5-0 เสียง ทะยานผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายต่อไปได้สำเร็จ ซึ่งหากรอบหน้าคว้าชัยได้จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ พร้อมการันตีเหรียญทองแดงทันที

สำหรับในรอบ 8 คนสุดท้าย สุดาพร สีสอนดี จะโคจรไปพบกับ แคโรไลน์ ดูบอยส์ นักชกดาวรุ่งวัย 20 ปีจากสหราชอาณาจักร ดีกรีเหรียญทองยูโอลิมปิกเกมส์ บัวโนส ไอเรส 2018 รวมทั้งเจ้าของแชมป์เวิลด์ ยูธ 1 สมัย และแชมป์ยูโรเปี้ยน ยูธ 4 สมัย ซึ่งสามารถโค่นตัวเต็งอย่าง ราชิดา เอลลิส ของสหรัฐอเมริกา มาได้ในรอบก่อนหน้านี้ โดยจะแข่งขันกันในวันที่ 3 สิงหาคมนี้

หลังการชก “น้องแต้ว​” สุดาพร กล่าวว่า การชกไฟต์นี้เราก็พยายามจะชกให้ฟรีสไตล์ เพราะการชกไฟต์แรกที่ผ่านมายังเกร็งอยู่ ส่วนวันนี้เราก็สามารถคุมเกมเอาไว้ได้ เพราะอินเดียวเป็นมวยยาว เราก็พยายามคุมเกมของเราไว้ สำหรับรอบหน้ากับนักชกสหราชอาณาจักรเขาเป็นมวยซ้ายต่อยยาว เราก็ต้องคุมเกมให้เหนือกว่าเขา และขยับเข้าทำก่อนเขาให้ได้ ก็คงต้องดูกันบนเวที

Advertisement

“เราก็ไม่ประมาทเขา เพราะว่าเขาเป็นมวยซ้ายมวยยาว ที่ผ่านมาเราก็ยังไม่เคยเจอกับกับ เพราะเป็นมวยที่เพิ่งขึ้นมา ยังไม่ค่อยได้เห็นสไตล์การต่อยของเขามากเท่าไร ทำให้เราต้องมีสมาธิกับเกม และขอกำลังใจจากชาวไทยในรอบหน้า เพราะถือเป็นไฟต์สำคัญของชีวิต อยากให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจมาด้วย ส่วนพ่อกับแม่ก็โทรมาคุยให้กำลังใจทุกวัน โดยช่วงนี้แม่อยู่ในช่วงกักตัว  เพราะว่าเดินทางมาจากโคราช ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง และกลับมาบ้านที่อุดรธานี” น้องแต้วกล่าว

สำหรับผลงานของทีมกำปั้นไทยในโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ทั้งหมด 4 คน ซึ่งสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย เพื่อลุ้นเหรียญได้ถึง 3 คน โดย 2 คนก่อนหน้านี้คือ รุ่น 57 กก.ชาย “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี จะพบกับ ลาซาโร่ อัลวาเรซ จากคิวบา และรุ่น51 กก.หญิง “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ ที่ต้องดวลกับ บูเซนาซ ชาคิโรกลู จากตุรกี ทั้งนี้ ฉัตร์ชัยเดชา และจุฑามาศ มีโปรแกรมขึ้นเวทีวันที่ สิงหาคมนี้


Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image