น้องเฟี้ยวร่ำไห้เปิดใจชวดทองแดง รับเกินคาดถึงรอบ 8 คนในโอลิมปิกสมัยแรก

น้องเฟี้ยวร่ำไห้เปิดใจชวดทองแดง รับเกินคาดถึงรอบ 8 คนในโอลิมปิกสมัยแรก

หลังจากที่ “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ นักชกสาวดาวรุ่งไทยวัย 23 ปี ชาวนครศรีธรรมราช เจ้าของเหรียญทองแดงซีเกมส์ 2019 ขึ้นเวทีโอลิมปิกเกมส์สมัยแรก พ่ายคะแนน บูเซนาซ ชาคิโรกลู กำปั้นเต็งหนึ่งจากตุรกี วัย 25 ปี ดีกรีเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2019 เอกฉันท์ 0-5 เสียง ตกรอบ 8 คนสุดท้าย ชวดเหรียญทองแดงในการแข่งขันมวยสากลสมัคร รุ่นฟลายเวท 51 กก.หญิง กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่สังเวียนโกกุกิคุง อารีน่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมนั้น

หลังการแข่งขัน “เฟี้ยว” จุฑามาศกล่าวทั้งน้ำตาว่า ผลงานการเข้าถึงรอบ 8 คน ถือว่าเกินกว่าที่คิดไว้ เพราะในโอลิมปิกมีแต่คนเก่ง โดยเฉพาะในรุ่นของตัวเอง การชกวันนี้ก็ทำเต็มที่แล้ว ยกแรกถ้าเรานำก่อนจะชกง่ายกว่านี้ ทำให้ยกสองต้องเปลี่ยนเกมเดินเข้าหา แต่ไปเข้าทางเขา เพราะเราอยากกลับมานำ ถ้าเราไม่เดินเข้าหาเราก็ไม่นำเขา ไฟต์นี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างคาใจ ถ้ามีโอกาสได้ไปโอลิมปิกเกมส์อีกครั้งในปี 2024 ก็จะทำให้ดีกว่า และจะกลับมาล้างแค้นเอาชนะให้ได้ คนที่แพ้นี้เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก

จุฑามาศกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ก็จะกลับไปซ้อม และพยายามทำให้ดีขึ้น ส่วนทางบ้านที่พรหมคีรี นครศรีธรรมราช ก็ได้โทรหาเมื่อวาน พวกเข้าก็รอเชียร์อยู่ เราก็เสียใจที่ตกรอบ 8 คน เพราะโอลิมปิกครั้งแรกอยากทำให้ติดเหรียญก็จะดีใจ แต่ทำได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะตกรอบไหน แต่เรามาทำให้สุดความสามารถแล้วที่เราคู่ควรมาที่นี่ ส่วนตัวอยากทำให้โค้ชภูมิใจ เพราะเราไม่ใช้คนมีพรสวรรค์ แต่เราก็ทำได้จากความขยัน และให้ทางบ้านได้ชื่นใจที่มีลูกเก่ง มีพี่น้องเก่ง

“หนูก็ขอโทษที่ทำได้แค่นี้ ถ้ามีโอกาสอีกหนูจะทำให้ดีกว่านี้ และขอขอบคุณที่เชียร์หนูติดตามหนู จากเด็กที่ไม่ค่อยอะไร ไม่มีชื่อเสียง ก็มีคนรู้จักมากขึ้น ตัวหนูชกมวยไทยตั้งแต่ 10 ขวบ เพราะตอนเด็กไม่ค่อยเล่นกับเด็กผู้หญิง พอไปซ้อมมวย มวยมีอะไรใหม่ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้น เริ่มชกกับค่ายเสกสรร ได้ชกครั้งแรกก็สะใจดี ก็รู้สึกว่าตอนนี้มันสนุก ได้คิดอะไรใหม่ๆ ตอนนั้นมีฉายา ยอดเยี่ยม ศิษย์ยกล้อ โค้ชคนแรกของหนูตอนนี้ก็บวชอยู่แถวบ้าน” น้องเฟี้ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image