ฮีโร่ อิน โตเกียว 2020 : คีริน ตันติเวทย์ ความหวังนักวิ่งระยะไกล

ฮีโร่ อิน โตเกียว 2020 : คีริน ตันติเวทย์ ความหวังนักวิ่งระยะไกล

นานมากแล้วที่นักกรีฑาไทย จะได้รับสปอร์ตไลท์ในกีฬาระดับอย่างโอลิมปิกเกมส์

จนกระทั่งมาถึงยุคนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ คีริน ตันติเวทย์ นักวิ่งหนุ่มลูกครึ่งไทย-สหรัฐ นักวิ่งระยะไกลที่สามารถคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ได้สำเร็จ

จุดเริ่มต้นของคีรินนั้นคือการวิ่งตามพี่ชาย ชานันต์ ตันติเวทย์ โดยมีความถนัดในการวิ่งแบบลู่มากกว่าถนน ก่่อนจะได้เข้าชมรมกรีฑาของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และกลายเป็นดาวเด่นของทีมทันที

ซึ่งการที่ได้อยู่ในทีมที่มีนักวิ่งเก่งฉกาจ บวกกับมีโค้ชที่ดี และการซ้อมเข้มข้น ทำให้คีรินมีผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

Advertisement

จนกระทั่งเมื่อปี 2017 คีรินได้กลับมาบ้านที่ประเทศไทย ก่อนจะได้รับการแนะนำไปยังสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย และได้ประเดิมแข่งขันในเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นครั้งแรก

ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์เข้าอันดับ 4 ในรายการวิ่ง 10,000 เมตร ก่อนที่เหรียญทองอย่าง ฮาสซาน ชานี่ จากบาห์เรน ถูกปลดจากเหรียญทองเนื่องจากสารกระตุ้น เท่ากับว่าคีรินจะถูกเลื่อนไปจบอันดับ 3 หรือเหรียญทองแดงนั่นเอง

Advertisement

และที่กลายเป็นฮอตฮิตสุดๆ ก็เมื่อปลายปี 2019 กับกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเจ้าตัววิ่งทิ้งห่างคู่แข่งทั้งในรายการ 5,000 เมตร กับ 10,000 เมตร คว้า 2 เหรียญทองให้ทัพไทย ก่อนจะรีบบินกลับไปเรียนต่อทันทีไม่อยู่รับเหรียญรางวัล

ดังนั้นทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของแฟนกีฬาชาวไทย หันมาสนใจกีฬาวิ่งระยะไกลแบบนี้ทันที

หลังจากจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด คีริน ก็ได้เข้าร่วมทีมโบเวอร์แมน แทร็คคลับ “บีทีซี” ซึ่งเป็นสโมสรกรีฑาชั้นนำในสหรัฐ ที่นับเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้สถิติการวิ่งของคีรินดีขึ้น อยู่ที่ 27.17.14 นาที เป็นสถิติที่ดีที่สุดในชีวิตและพาเขาคว้าโควต้ามาโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้สำเร็จ

ต้องยอมรับว่าสังเวียนการแข่งขันระดับ 10,000 เมตรในโอลิมปิกเกมส์ คือการแข่งขันกันของบรรดานักวิ่งจากทวีปแอฟริกา ทั้งคนที่เป็นเจ้าของเหรียญทองอย่าง บาเรก้า เซเลม่อน จากเอธิโอเปีย หรือแชมป์โลกอย่าง โจชัว เชปเตไก จากอูกันดา

แต่สิ่งที่เป็นเป้าหมายสำคัญ คือการดวลกันของ 3 นักวิ่งเชื้อสายเอเชีย ที่นอกจากคีรินแล้วยังมีสองนักวิ่งเจ้าภาพอย่าง อะกิระ ไอซาวะ, ทัตสึอิโกะ อิโตะ ที่เรียกได้ว่าอาจจะเป็นการวัดฝีเท้าก่อนเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่ประเทศจีนปีหน้าก็ว่าได้

ถึงแม้ว่าผลงานจะจบลงด้วยการเข้าอันดับ 23 จาก 25 คน แต่การวิ่งจนเข้าเส้นชัยได้ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งของนักวิ่งลูกครึ่งไทย-สหรัฐ รายนี้

และน่าสนใจอย่างยิ่งว่า ในเอเชี่ยนเกมส์ ปีหน้า รวมถึงโอลิมปิกเกมส์ ที่ปารีส อีก 3 ปี คีรินจะทำสถิติได้ดีขึ้นและเป็นอีกหนึ่งความหวังของทัพไทยได้ขนาดไหน

ต้องรอลุ้นแล้วให้กำลังใจกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image