หมอไพศาลแจงขั้นตอนตรวจโควิดทัพโอลิมปิก เจอผลบวกแยกตัวรักษาที่ญี่ปุ่น
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคมนี้ โดยทัพนักกีฬาไทยคว้าโควต้าเข้าร่วมชิงชัยรวมทั้งสิ้น 41 คนใน 14 ชนิดกีฬานั้น
ล่าสุด นาวาอากาศเอก (พิเศษ) นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสโรงพยาบาลกรุงเทพ สายกิจกรรมพิเศษ ซึ่งจะรับตำแหน่ง “CLO” (COVID-19 Liaison Officer) ประสานเจ้าภาพในมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดทำศึกโตเกียวเกมส์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าภาพญี่ปุ่นค่อนข้างเข้มงวดมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างมาก โดยจะมีการตรวจหาเชื้อในนักกีฬาทุกวันภายในหมู่บ่านนักกีฬา ซึ่งการตรวจจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
ระดับแรกจะเป็นการตรวจหาเชื้อด้วยน้ำลายที่เรียกว่า Antigen Test ซึ่งหากผลเป็น Positive ก็จะนำน้ำลายไปตรวจหาเชื้อแบบ PCR ในระดับต่อไป และถ้าหากผลเป็น Positive อีกในระดับต่อไปก็จะทำการตรวจหาเชื้อด้วยการแยงจมูก หรือที่เรียกว่า Nasopharyngeal Swab ด้วยการแยงเข้าไปในโพรงจมูกเพื่อหาสารคัดหรั่ง หลังจากนั้น ถ้าเกิดผลเป็น Positive ก็จะมีคณะกรรมการชุดหนึ่งที่ตั้งขึ้นมา (Expert Group) เพื่อดูผลการตรวจของนักกีฬาคนนั้นมีเชื้อมาก หรือน้อย แล้วพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรว่าจะอนุญาติให้นักกีฬาแข่งขันต่อหรือไม่
“Expert Group จะเป็นคนลงความเห็นร่วมกับสหพันธ์กีฬานานาชาตินั้นๆ เพราะแต่ละชนิดกีฬามีวิธีการแข่งขันไม่เหมือนกัน กีฬาบุคคลอย่าง ยิงปืน ยิงเป้าบิน นักกีฬาก็อยู่คนละโซน และการที่จะติดเชื้อต้องมีระยะที่ใกล้กันมาก แต่ตรงนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่เขียนไว้ชัดเจน แต่ในฐานะที่เราอยู่ในวงการกีฬามาก็คิดว่า นักกีฬาเขาซ้อมมาเป็นปีสองปี พอมาเจอโควิดก็โดนใบแดงเลยก็น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน” นพ.ไพศาลกล่าว
หมอไพศาลกล่าวเพิ่มเติมว่า หากนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดในช่วงของการแข่งขันก็จะมีการรักษาที่ญี่ปุ่นทันทีเลย โดยจะมีการแยกตัวออกมาพักรักษาตัวอยู่ในสถานที่กักตัวที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ เพื่อไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อ นอกจากนี้ เจ้าภาพก็ยังให้นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทุกคนโหลดแอพพลิเคชั่น COCOA เพื่อติดตามไทม์ไลน์ในกรณีที่เกิดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ก็อยากจะให้นักกีฬาไทย และเจ้าหน้าที่ทุกคนระวังตัวเองเป็นดีที่สุด ซึ่งก็เป็นการทำเพื่อตัวเอง และคนอื่นๆ
