วิกฤตค่าเงินตุรกี กดตลาดหุ้น-ทองผันผวนหนัก

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำว่า ราคาทองคำในวันที่ 16 สิงหาคม ปรับขึ้นลง 5 ครั้ง โดยผันผวนหนักจากปัจจัยค่าเงินตุรกีปรับลงกว่า 20% ประกอบกับสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐกับจีน ที่สหรัฐหันไปเล่นงานประเทศอื่นมากขึ้น จึงต้องติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในเดือนกันยายนจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การลงทุนยังคงมีความผันผวนในช่วงนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเปิดตลาด ราคาทองคำปรับลง 250 บาท ก่อนจะทยอยปรับขึ้นลงตลอดทั้งวัน โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 18,550 บาท ขายออกบาทละ 18,650 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 18,222.32 บาท ขายออกบาทละ 19,150 บาท

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าเงินตุรกีตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอ่อนค่าลงมาประมาณ 80% ก่อนจะแข็งค่าขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสถานะทางการเงินที่เกิดขึ้นเกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ดอกเบี้ยนโยนโยบายที่สูงขึ้น ขณะที่เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะสังเกตว่าโครงสร้างดังกล่าวคล้ายกับสถานะการเงินของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ทั้งในละละอเมริกา แอฟริกา หรืออย่างในอินโดนีเซียเองก็ดี ทำให้เม็ดเงินไหลออกไปเข้าตลาดพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำมากกว่า ประกอบกับการเตรียมปรับดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายน ส่งผลให้ตลาดหุ้นในช่วงนี้ซบเซา แต่ทั้งนี้ต้องรอติดตามว่าจะมีปัจจัยมาช่วยประคองตลาดหรือไม่ เช่น ความช่วยเหลือจากกาตาร์

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรฯ แจ้งว่า ดัชนีตลาดหุ้นอาจจะปรับลงรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ แต่เชื่อว่ายังไม่ใช่ช่วงขาลง โดยประเมินว่าในวันที่ 16 สิงหาคม ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ1,665-1,690 จุด แนะนำสะสมหุ้นเมื่อราคามีมูลค่าน่าสนใจอีกครั้ง และรอซื้อในช่วงดัชนีตลาดหุ้นฟื้นตัว

Advertisement

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ เปิดเผยว่า นักลงทุนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจกับสถานการณ์ด้านการเงินในตุรกี เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินลีราอ่อนค่าลงแรงกว่า 20% ถูกกดดันด้วยความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงขึ้น โดยช่วงที่ผ่านมาประธานาธิบดี เรเซฟ เตยิบ เออร์โตอาน ได้พยายามแทรกแซงนโยบายการเงิน และปล่อยให้ฐานะการคลังของตุรกีมียอดขาดดุลเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมด้วยการเพิ่มระดับอัตราภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ สร้างความกังวลที่จะเกิดวิกฤตอัตราแลกเปลี่ยนที่จะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทเอกชนในตุรกีจำนวนมากกว่า 50% ของหนี้ต่างประเทศของบริษัทเอกชนในตุรกี แม้ล่าสุดธนาคารกลางตุรกีจะออกมาประกาศเตรียมใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับค่าเงินลีรา แต่ยังมองว่าปัญหาดังกล่าวยังมีความไม่ชัดเจนอยู่มาก

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี ระบุด้วยว่า หากธนาคารกลางตุรกีแก้ปัญหาด้วยการขึ้นดอกเบี้ยหรือแทรกแซงค่าเงินลีรา จะยิ่งส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทเอกชนเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งปัญหาในตุรกีส่วนใหญ่เกิดกับภาคเอกชนทำให้กระบวนการช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ทำได้ยากกว่ากรณีอื่น และประเมินว่าทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นเดือนสิงหาคมจะมีความผันผวนสูงขึ้น จากแรงขายทำกำไร และจะเห็นการชะลอตัวของดัชนีตลาดหุ้น โดยคาดว่าดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,675-1,715 จุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image