“โอสถสภา”เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต.ค.นี้ แต่ไม่ขายหุ้นให้รายย่อย 

นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มทั้งเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ กาแฟพร้อมดื่มและเครื่องดื่มที่เติมส่วนผสม เพื่อให้ได้คุณสมบัติเฉพาะ ยังคงเป็นกลุ่มที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัท หรือมีรายได้ 18,975 ล้านบาท จากรายได้ทั้งหมดในปี 2560 ที่ 24,571 ล้านบาท โดยสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มที่ได้ทำรายได้ดีคือ เอ็ม150 และลิโพตามลำดับ ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ทำรายได้ 2,195 ล้านบาท สินค้าหลักคือแบรนด์สินค้าเบบี้มายด์ นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจซัพพลายเชน ธุรกิจลูกอมและธุรกิจอื่นๆ ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง รองรับแผนการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของที่ต้องผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดด และรักษาความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลในภูมิภาคนี้ โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผล 60% ของกำไรสุทธิรวมให้กับผู้ถือหุ้น

นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 3,003.75 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 3,003.75 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาทต่อหุ้น โดยมีทุนที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด 2,497 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,497 ล้านหุ้น และเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญเดิม จำนวนไม่เกิน 603.75 ล้านหุ้น โดยได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นเบื้องต้นที่ระหว่าง 22.00-25.00 บาทต่อหุ้น โดย ณ วันจองซื้อ นักลงทุนทั่วไปจะต้องจองซื้อหุ้นไอพีโอ ที่ราคา 25.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น โดยราคาเสนอขายหุ้นสุดท้ายจะถูกกำหนดโดยนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและในต่างประเทศ ทั้งนี้จะไม่มีการเสนอขายหุ้นไอพีโอให้กับนักลงทุนรายย่อย

นายอนุวัฒน์กล่าวว่า นอกจากนี้มีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและในต่างประเทศที่เป็น Cornerstone Investors จำนวน 12 รายได้แก่ บลจ.บัวหลวง บลจ.ภัทร บลจ.กรุงไทย บลจ.ทิสโก้ บลจ.ไทยพาณิชย์ บลจ.อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด (ประเทศไทย) AIA Company Limited, Thailand Branch, Aberdeen Standard Investment (Asia) Limited, Templeton Asset Management Ltd., York Capital Asset Management Global Advisory LLC และ The Segantii Asia-Pacific Equity Multi-Strategy Fund ได้ตกลงจองซื้อหุ้นของบริษัทฯ ที่เสนอขายครั้งนี้ เป็นจำนวน 259.34 ล้านหุ้น หรือประมาณร้อยละ 43 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมดที่ราคาเสนอขายสุดท้าย การแสดงความสนใจและเข้าทำสัญญาลงทุนในหุ้นของนักลงทุนสถาบันประเภท Cornerstone ทั้ง 12 แห่งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพในการเจริญเติบโตของบริษัท ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถกำหนดและประกาศราคาเสนอขายหุ้นสุดท้ายได้ในวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ (www.osotspa.com)

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image