เร่ง 4 แผนพลังงานรับพีดีพีใหม่ สนพ.ชี้ต้องเร่งแผนก๊าซรับความต้องการในประเทศ

สนพ.เร่งจัดทำ 4 แผนพลังงานสอดรับแผนพีดีพีใหม่ รับแผนก๊าซฯต้องเกิดโดยเร็ว

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพัลังงาน(สนพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำ 4 แผนพลังงานรองรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศปี2561-2580 (พีดีพี 2018) หลังผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ว่า สนพ.จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแผนพีดีพี ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงาน จะต้องเร่งจัดทำร่างแผนแม่บทกระทรวงพลังงาน ปี2562-2566 และจัดทำ 4 แผนพลังงานได้แก่ แผนอนุรักษ์พลังงาน(อีอีพี),แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก(เออีดีพี),แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ และแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง ให้สอดคล้องกับแผนพีดีพีฉบับใหม่

“แผนที่ต้องเร่งจัดทำอันดับแรก คือแผนก๊าซฯ เป็นหน้าที่ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะต้องดูว่าการจัดหาก๊าซจากในประเทศว่ามีปริมาณเท่าไร ต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)เท่าไรรวมไปถึงระบบสาธารณูปโภคที่จะรองรับการนำเข้าเพียงพอหรือไม่อย่างไร เพื่อให้ทันกับการรองรับการผลิตไฟฟ้าตามแผนพีดีพีฉบับใหม่”นายวัฒนพงษ์กล่าว

นายวัฒนพงษ์กล่าวกล่าวว่า ตามร่างแผนพีดีพี ฉบับใหม่ ในปีนี้จะต้องมีความชัดเจนเรื่องกำลังผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันตกเป็นโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่(ไอพีพี)แห่งแรก กำลังผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น 2 โรง โรงละ 700 เมกะวัตต์ กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ไปพิจารณาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศมากที่สุด เบื้องต้นจะแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ โรงแรกจะเป็นการก่อสร้างทดแทนโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ของ บริษัท ราชกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ จะสิ้นสุดอายุสัญญาเดือนกรกฎาคม 2563 ใช้รูปแบบการเจรจากับเจ้าของโรงไฟฟ้าเดิมเป็นหลัก ส่วนอีกโรงเป็นการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ 700 เมกะวัตต์ อาจใช้เป็นรูปแบบการเปิดประมูลแข่งขัน โดยคาดว่า กกพ.จะสรุปแนวทางที่ชัดเจนในเร็วๆนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image