นายสมศักดิ์ บุญลาภ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ปี 2562 มีแผนใช้งบประมาณลงทุนไม่ต่ำกว่า 4,000 – 5,000 ล้านบาทขยายโรงงานการผลิตสินค้าทั้งอาหารคนและอาหารสัตว์ โดยเน้นขยายธุรกิจกลุ่มอาหารแปรรูป เพราะอาหารแปรรูปค่อนข้างมาแรงและมีทิศทางที่เติบโตสดใส เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคนิยมรับประทานอาหารแปรรูปพร้อมทานมากขึ้น เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว มีรสชาติที่ดีและมีความปลอดภัย โดยตั้งเป้าการเติบโตยอดขาย15%
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในแผนขยายธุรกิจอาหารลงทุน 1,500 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตอาหารแปรรูปจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ 3,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเดือนกรกฏาคมนี้ จากลงทุน 750 ล้านบาทต้้งโรงงานผลิตอาหารพร้อมทาน เบทาโกร เซ็นทรัล คิทเชนซึ่งเริ่มผลิตแล้ว 6 เดือน มีกำลังการผลิตปีละ 8,000 ตันรองรับการจำหน่ายในประเทศและส่งออก รวมถึงมีแผนการขยายสาขาจำหน่ายสินค้าเครือเบทาโกร เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น คาดว่าจะเพิ่มสาขาเป็น 200 สาขา จากเดิม 190 สาขา
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดส่งออกปี 2562 เป็นไปในทิศทางที่ดี เบทาโกรตั้งเป้าปริมาณการส่งออกปีนี้ 97,580 ตัน เติบโต 12% โดยผลิตภัณฑ์หลักยังคงเป็นไก่ปรุงสุกแช่แข็ง และไก่สดแช่แข็ง ซึ่งเน้นทำตลาดสินค้าไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายกำลังการผลิตสินค้าไก่ปรุงสุกเพิ่มขึ้นอีกปีละ 3,000 ตัน ป้อนตลาดญี่ปุ่นที่มีความต้องการสินค้าจากประเทศไทยมากขึ้น คาดจะส่งผลให้กลุ่มธุรกิจอาหารมีอัตราการเติบโตในแง่รายได้ 15% หรือเพิ่มจาก 49,000 ล้านบาทในปี 2561 เป็น 53,000 ล้านบาทในปี 2562
“สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน(เทรดวอร์) ยังไม่ได้มีผลกระทบกับธุรกิจมากนัก เพราะพึ่งเกิดขึ้น และบริษัทได้ทำการศึกษาเรื่องนี้อยู่ว่าจะเกิดผลดีหรือผลเสียเพิ่มขึ้นอย่างไร ที่กังวลจะเป็นเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและค่าบาทมากกว่า เพราะบริษัททำการค้ากับประเทศในกลุ่มยุโรปและญี่ปุ่นสัดส่วนมาก โดยภาพรวมรายได้ทั้งเครือเบทาโกรปีนี้คาดจะเติบโต 12% และมีรายได้ 79,000 ล้านบาท ” นายสมศักดิ์ กล่าว
