•….น่าสลดใจอย่างยิ่งกับการรุมทำร้าย “จ่านิว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์” นักกิจกรรมการเมืองรุ่นใหม่จากรั้วธรรมศาสตร์ อาการสาหัส ถึงขั้นมีสิทธิเสียดวงตาข้างหนึ่ง คนร้าย 4 คน ดักรอที่ถนนใหญ่ รอ “จ่านิว” เดินออกมาแล้วรุมกระหน่ำไม่ยั้ง เน้นเป้าที่ “หัว” เรียกว่าจะ “เอาถึงตาย” ครั้งนี้หนักมาก “สะเทือนใจ” ผู้คนไปทั่ว บ้านเมืองเราผ่านการ “ปฏิรูป” มาถึงจุดที่การแสดงความคิดความเห็น และการแสดงออกตามความคิดเห็น เป็นเรื่องที่ต้องประหัตประหารกันแล้วหรือ
•….การกระทำกับประชาชน กับคนรุ่นใหม่ของบ้านเมืองอย่างนี้ไม่เป็นผลดีกับผู้มีอำนาจแน่นอน เพราะ “เหยื่อ” คือคนรุ่นใหม่ที่ “เห็นต่าง” จากผู้มีอำนาจ และเรียกร้อง “ประชาธิปไตย” มาโดยตลอด หากคนเรียกร้องประชาธิปไตยต้องเผชิญกับความรุนแรงระดับ “ปางตาย” หรือเผลอๆ ก็ตาย แล้ว “จุดยืน” ของผู้มีอำนาจอยู่ตรงไหน ถึงเป็นปฏิปักษ์นักหนากับฝ่ายที่เรียกร้อง “ประชาธิปไตย”
•….สำหรับ “จ่านิว” ที่ไปสร้างภาพให้เป็นนักกิจกรรมที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังนั้น สังคมไทยรู้จัก “จ่านิว” จากกิจกรรมต้านรัฐประหาร ขณะเป็นนักศึกษารัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ และมีข่าวเร็วๆ นี้ว่า “จ่านิว” ได้ทุนไปเรียนต่อที่อินเดีย น่าจะเป็นโอกาสให้บันฑิตรัฐศาสตร์อีกคนได้พัฒนาตัวเองให้เป็น “บุคลากร” ที่มีคุณค่าของประเทศ
•….“จ่านิว” มาจาก “ครอบครัวยากจน” ต้องเรียนและกินอยู่ “อย่างประหยัด” มีนักข่าวติดตามไปทำข่าว ขอสัมภาษณ์ ได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของ “จ่านิว” กับแม่ ที่เรียบง่ายติดดินเหมือนกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ชีวิตอย่างนี้กับบรรยากาศของประเทศ ทำให้เขาเห็น “ปัญหา” การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งที่ “ฝ่ายอำนาจ” หวาดหวั่น ไม่ใช่เพราะมีเงินมีทองเคลื่อนไหว แต่เป็น “พลัง” ของประเด็นที่ “มีความชอบธรรม” ขณะที่บรรดาผู้ขับเคลื่อนจะ “กินน้ำกินข้าว” ยังต้องระดมสตางค์กันวุ่นวาย
•….เชื่อว่าคนไทยไม่ได้คาดหวังสักเท่าไหร่ว่า “ตำรวจ” จะทำคดีนี้ได้สำเร็จ หลังจากเกิดเหตุแบบนี้มา 11 ครั้ง ไม่เคยจับได้สักครั้ง วงจรปิดมีหลายตัว ที่อยู่ในมือตำรวจก็หลายคลิป อยู่ที่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้เท่านั้นเอง ดีไม่ดี คดี “จ่านิว” ประชาชนอาจต้องพึ่งพาตัวเอง สืบสวนสอบสวนหาความจริงกันเอง เพราะพึ่งพาเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ และที่หนักคือ เมื่อ “รัฐ” มาเป็นคู่ต่อสู้ เป็น “คู่ขัดแย้ง” กับประชาชนเสียเอง แล้วจะเหลือ “หลักประกัน” อะไรให้ประชาชน
•….โผ ครม.ล่าสุด สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกโยกจาก “ว่าที่ รมว.พลังงาน” ไปนั่ง “ว่าที่ รมว.อุตสาหกรรม” แล้วให้ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จาก “ว่าที่ รมว.อุตสาหกรรม” เดิม ไปนั่ง “รมว.พลังงาน” แทน ทำเอากลุ่มสามมิตรเดือดหนัก อนุชา นาคาศัย หรือ “เสี่ยแฮงค์” ปกติใจเย็น ออกมาถล่มแหลก คาดว่าคงจะต้อง “ต่อรอง” กันอีกรอบ แต่ข่าวจากรัฐบาลบอกว่า หมดเขตปรับเปลี่ยนแล้ว คิกออฟรัฐบาลใหม่กันแบบ “ร้าวๆ หลวมๆ” ส่วนจะอยู่กันได้ยาวนานแค่ไหน เป็นเรื่องของ “อนาคต”
กาแฟป่า
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่