สศค.คาดโครงการเพิ่มความเข้มแข็งฐานรากดันจีดีพีขึ้น0.15%

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 ได้มีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอนั้น โครงการดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนเงินทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจำนวน 79,556 กองทุนโดยตรง โดยผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กองทุนละไม่เกิน 500,000 บาท วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน เช่น ยุ้งฉางชุมชน โรงตากพืชผลทางการเกษตร โรงสีชุมชน โรงงานผลิตปุ๋ยประจำชุมชน การจัดทำแหล่งเก็บน้ำชุมชน และเครื่องจักรสำหรับแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร หรือนำไปดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้น ซึ่ง สศก.คาดว่าจากการดำเนินโครงการดังกล่าว น่าจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ในปี 2559 สามารถขยายตัวเพิ่มได้ 0.15% เพราะเป็นโครงการเงินให้เปล่า จึงสามารถลงสู่ระบบและถึงมือประชาชนได้รวดเร็ว เพราะได้กำหนดระยะเวลาในการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หลังได้รับการจัดสรรงบประมาณ
นายกฤษฎากล่าวว่า ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 2558 ที่ผ่านมาคาดว่าจะขยายตัวได้ 2.9% เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้เดิม 2.8% แม้ว่าการส่งออกของไทยจะติดลบ 5.78% หรือขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปีก็ตาม แต่หากเปรียบเทียบกับการส่งออกทั่วโลก การส่งออกของไทยก็ยังถือว่าอยู่ในลำดับที่ดีกว่าหลายประเทศที่ติดลบหนักถึง 7-10 % ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยการท่องเที่ยว และจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยของรัฐบาล อาทิ มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้านผ่านการให้สินเชื่อผ่านกองทุนหมู่บ้าน 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายไปได้แล้วกว่า 50,000 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ อีกจำนวนมาก รวมทั้งจากตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้ง 3 ไตรมาส ในปี 2558 ก็เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.9% จึงมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจทั้งปีจะสามารถขยายตัวได้ 2.9%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image