ค่าแรงปรับขึ้น หนุนก่อสร้างหันใช้คอนกรีตมวลเบา ลดต้นทุนและแรงงาน

นายกิตติ  สุนทรมโนกุล  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตคอนกรีตมวลเบา ภายใต้แบรนด์สินค้า Q-CON เปิดเผยว่า ตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดปูนซีเมนต์ และคอนกรีตผสมเสร็จ เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลมีการลงทุนในโครงขนาดใหญ่จำนวนมาก อาทิ รถไฟฟ้าสายต่างๆ ทำให้อุตสาหกรรมขยายตัวได้ดี ยกเว้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตลดลง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งสวนทางกับปร้เภทแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวทาวเฮ้าส์ ที่มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น เพราะเริ่มเห็นว่าผู้บริโภคสนใจในแนวราบมากขึ้น นอกจากนี้การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่ผ่าน มีส่วนช่วยส่งเสริมทำให้อุตสาหกรรมอิฐมวลเบาเติบโตขึ้นมาก ขณะที่มีการใช้งานอิฐมอญลดลง เพราะมีต้นทุนสูง และต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการโครงการต่างๆ ลดการใช้แรงงานลง โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับขึ้นราคาวัสดุก่อสร้างขึ้น 4-5% จากภาวะต้นทุนที่สูงขึ้น

นายกิตติ กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ จะมุ่งเน้นทำตลาดในประเทศ ทั้งงานภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าหมายต้องการสร้างรายได้ในปีนี้กว่า 2,000 ล้านบาท จากในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายแล้วกว่า 1,032.9 ล้านบาท  เติบโต  12% เมื่อเทียบกับปี 2561 และมีผลกำไรครึ่งปีแรก 86.90 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงถึง 393%  เนื่องจากได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Q Panel ออกสู่ตลาด ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายอิฐมวลเบาอีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯยังได้จัดจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศด้วย อาทิ ออสเตรเลีย อินเดีย ลาว กัมพูชา และมัลดีฟส์ โดยตลาดอินเดียเพิ่งเริ่มเข้าไปทำตลาดในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 20.8 ล้านตร.ม. มีโรงงานถึง 5 โรงงาน รองรับอยู่ในเขตพื้นที่สำคัญและเป็นตลาดที่เติบโตสูงในกรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคอีสาน โดยการขายและการทำการตลาด จะมีทั้งรูปแบบการขายตรงเข้าโครงการ และขายผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย หรือร้านค้ากว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้บริษัทฯยังให้ความสำคัญในการพัฒนาช่างฝีมือทั่วประเทศ เพื่อยกระดับช่างฝีมือไทย ผ่านการฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้งาน และยังพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือช่วยยกแผ่น และเครื่องมือติดตั้งแผ่นอัตโนมัติด้วย

“ที่ผ่านมาพบว่าบริษัทฯมีงานภาครัฐลดลง โดยเฉพาะอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานศึกษา แต่เชื่อว่าปีนี้จะมีการเพิ่มสัดส่วนที่เป็นงานจากภาครัฐเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการขนาดใหญ่จำนวนมาก และสานต่อโครงการจากรัฐบาลเดิมเยอะ ซึ่งจะทำให้มีโครงการลงทุนเกิดขึ้นหลายโครงการที่เกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภค เช่น รถไฟรางคู่  และรถไฟฟ้า จึงเชื่อว่าจะเป็นสวนช่วยหนุนทำให้แผนธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้แน่นอน”นายกิตติกล่าว

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image