เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ชาวบ้านต.เกาะลิบง พร้อมผู้นำชุมชน จิตอาสากลุ่มรักษ์ดุหยงและเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรังกว่า 100 คน พร้อมใจกันเก็บขยะเพื่อรำลึกถึงมาเรียม บริเวณหน้าอ่าวดุหยง แหล่งที่เคยอนุบาลมาเรียมเป็นเวลา 111 วัน โดยพบขยะพลาสติก เศษอวน ขวดน้ำและอื่น ๆ ซึ่งมีทั้งลอยมาเกยชายหาดและเกาะเกี่ยวอยู่ติดกับกิ่งไม้ โดยหลังจากนี้ ชาวตำบลเกาะลิบงจะร่วมกันลดการใช้พลาสติกทุกประเภท เพื่อไม่ให้เป็นมลพิษต่อสัตว์ทะเลหายาก ซึ่งการตายของมาเรียม ทำให้ชาวบ้านทุกคนตระหนักรู้ถึงพิษภัยของขยะ พร้อมขอโทษมาเรียมที่ดูแลได้ไม่ดีพอ แต่การตายของมาเรียมทำให้เมื่อเช้า
นอกจากนั้น ชาวเกาะลิบงร่วมกันละหมาดและสวดดุอา เพื่อส่งวิญญาณมาเรียมไปสู่สุขคติ โดยในปีหน้านี้ ซึ่งกำหนดให้วันที่ 17 สิงหาคมเป็นวันพะยูนแห่งชาติ ชาวเกาะลิบงคาดจะสามารถหางบประมาณส่วนหนึ่ง มาทำอนุสรณ์สถานไว้ให้กับมาเรียม เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จะตามรอยมาเรียม สามารถเข้าชมได้และถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นของมาเรียมได้ โดยจะมีการทำบุญให้กับมาเรียมในวันที่ 17 สิงหาคมของทุกปีด้วย
นายสุวิท สารสิทธิ์ (บังจ้อน) อายุ 43 ปีจิตอาสากลุ่มรักษ์ดุหยง ซึ่งเป็นคนดูแลมาเรียมอย่างใกล้ชิด กล่าวว่า ทุกครั้งที่คิดถึงมาเรียมก็จะมานั่งดูจุดที่มาเรียมเคยอยู่ทุกวัน และร้องไห้จนนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งตนเชื่อว่าคนไทยหลายคนก็อยู่ในอาการเดียวกัน และอยากเห็นพะยูนฝูงอื่นเข้ามาในบริเวณนี้ให้มาก แต่คิดว่าถ้ามีเงินสักก้อนจะคุยกับผู้นำชุมชนว่า ครั้งหนึ่งใน 1 ปีจะทำบุญเพื่อระลึกถึงมาเรียม กันเพื่อให้เยาวชนได้ตื่นตัวและเห็นว่าชาวเกาะลิบงไม่เคยลืมมา
นายสุเทพ ขันชัย อายุ 63 ปี ผู้ก่อตั้งกลุ่มจิตอาสารักษ์ดุหยงและเป็นประธานกลุ่มกล่าวว่า ตนเป็นคนตั้งชื่อให้กับมาเรียม การจากไปของมาเรียมทำให้รู้สึกเสียใจมากเพราะดูแลตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย คนเกาะลิบงมีความอาลัยและรักมาเรียม และเมื่อทราบข่าวว่ายามิลจากไปอีกก็ยิ่งเศร้ากันไปอีก ซึ่งตนไม่ได้ดูแลเฉพาะมาเรียม แต่พี่น้องของมาเรียมเกือบ 200 ตัวก็ต้องดูแลกันต่อไป
อย่างไรก็ตามด้านชาวบ้าน ที่ร่วมกันเก็บขยะก็บอกว่าหลังจากมาเรียมได้จากไปที่เกาะลิบงก็เงียบลง นักท่องเที่ยวลดลง รายได้ของชาวบ้านก็น้อยลงพวกตนรู้สึกเสียดาย เพราะรักมาเรียมเหมือนลูก และอยากให้มีรูปปั้นหรือนำมาเรียมมาสตาฟไว้ที่นี่เพราะมาเรียมคือความรักความผูกพันของชาวเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
