“คอปเปอร์ ไวร์ด”เตรียมเข้าตลท. มั่นใจธุรกิจสินค้าไลฟ์สไลต์ยังเติบโตได้สูง

นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW กลุ่มธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ อาทิ นาฬิกาอัจฉริยะ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์เกี่ยวกับเสียง อุปกรณ์เกี่ยวเพื่อสุขภาพ ซึ่งครอบคลุมแบรนด์ชั้นนำกว่า 200 แบรนด์ มีสินค้าภายใต้การจัดจำหน่ายถึง 2,000 รายการ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีการยื่นขออนุญาตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยมีเป้าหมายที่จะนำเงินจากการระดมทุน ไปขยายสาขาร้านดอทไลฟ์ เพิ่มเติมอีก 6 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิมอีก 5 สาขา ในปีนี้ 2563 ใช้เงินลงทุนประมาณ 5-10 ล้านบาทต่อสาขา ขึ้นอยู่กับขนาดแต่ละสามารถ เริ่มต้นตั้งแต่ 80-300 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินทุนในการเปิดสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิมประมาณ 100 ล้านบาท โดยมีแผนพัฒนาธุรกิจให้เป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ที่มีสินค้าครบวงจรใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในประเทศไทย เพราะยังเห็นทิศทางการเติบโตของธุรกิจที่มีอยู่มากในปัจจุบัน

“การเข้าตลท.ในช่วงที่ตลาดค่อนข้างผันผวน มองว่าไม่ได้มีปัจจัยที่ทำให้ต้องเลื่อนการเข้าจดทะเบียนออกไป เพราะบริษัทฯมีความพร้อมมากพอ โดยในส่วนของความกังวลของเศรษฐกิจที่ดูจะชะลอตัวลง กำลังซื้อยังไม่ได้ฟื้นตัวดีเท่าที่ควร เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะของการไม่โตในบางกลุ่ม ซึ่งกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯอยู่ในระดับบน ไม่ได้จับกลุ่มลูกค้าระดับทั่วไปมากนัก ทำให้ร้านค้าปลีกของบริษัทฯจะอยู่ในพื้นที่ที่มีกลุ่มลูกค้าระดับบนเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งหากพูดตามภาพรวมแล้วในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอการเติบโต กลุ่มคนระดับบนจะได้รับผลกระทบช้ากว่าและน้อยกว่า”นายปรเมศร์กล่าว

นายปรเมศร์ กล่าวว่า นอกจากบริษัทฯจะมีบริษัทย่อย 1 แห่งคือ บริษัท โคแอน จำกัด (KOAN) ซึ่งถือหุ้นสัดส่วน 99.99% แล้วยังมีธุรกิจร้านค้าปลีกอีกจำนวน 39 สาขา ได้แก่ ร้าน ดอทไลฟ์ 20 สาขา, ร้าน Apple Brand Shop ได้แก่ ร้าน iStudio by copperwired และร้าน Ai_ รวม 14 สาขา และศูนย์บริการซ่อมบำรุงผลิตภัณฑ์ Apple ในชื่อ iServe 5 ศูนย์ นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นเว็ปไซต์ของบริษัทเองคือ www.dotlife.store และ www.istudio.store สำหรับการดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทฯ สามารถแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ สมาร์ทโฟน กลุ่มคอมพิวเตอร์-แท็บเล็ต และกลุ่มศูนย์บริการซ่อมต่างๆ

นายปรเมศร์ กล่าวว่า ภายในระยะ 3 ปีต่อจากนี้ บริษัทฯคาดว่าจะสามารถบริหารให้ธุรกิจเติบโตเฉลี่ย 10-15% ซึ่งเป็นตัวเลขที่บริษัทฯสามารถทำได้ใน 3 ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯดำเนินธุรกิจมากว่า 19 ปี ซึ่งถือว่าสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง บริษัท คอปเปอร์ไวร์ดมีรายได้รวมในปี ปี 2559–2561 มีรายได้รวมจำนวน 2,549.94 ล้านบาท 2,789.05 ล้านบาท 3,227.62 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโต ในปี 60 และปี 61 อยู่ที่ 9.38% และ 15.72% ตามลำดับ โดยมีรายได้หลักจากช่องทางค้าปลีกหน้าร้านและบริการ มีการเติบโตของกลุ่มสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์อย่างโดดเด่น

Advertisement

นายวิรัช มรกตกาล รองกรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคที ซีมิโก้ และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด ได้ยื่นขออนุญาตเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้อยู่ที่ 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลท. ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นได้ภายในปีนี้

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image