นายเจมี่ วูดวาร์ด ผู้อำนวยการ ธนาคารยูบีเอส ประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลไทยพยายามผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และกระตุ้นการลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก ทำให้มีความหวังที่จะเห็นการลงทุนจากต่างชาติ เข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น ด้วยความที่ประเทศไทยตั้งอยู่ใจกลางของอาเซียน บริษัทฯจึงเลือกที่จะจัดงานการประชุม OneASEAN ครั้งที่ 7 โดยเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นการประชุมที่รวมเอานักลงทุนสถาบันกว่า 170 ชีวิต มาร่วมสัมมนาเกี่ยวกับการเติบโตแบบก้าวกระโดดในตลาดอาเซียน การจัดงานประชุมครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯได้จัดงานสัมมนาการลงทุนอาเซียนในประเทศไทย จึงสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและบทบาทของไทยในเวทีโลก
“นักลงทุนที่เข้าร่วมในงานนี้ จะได้ประโยชน์จากการเข้าถึงแพลตฟอร์มระดับโลกแต่เปี่ยมไปด้วยความเข้าใจในระดับท้องถิ่น เพื่อช่วยให้นักลงทุนได้เข้าใจ และสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้นด้วย สำหรับกรณีที่แหล่งน้ำมันในซาอุดิอารเบียถูกโจมตีจะมีผลกระทบด้านราคาน้ำมันกับประเทศในอาเซียนโดยเฉพาะไทย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันหรือไม่นั้น เนื่องจากปกติน้ำมันมักมีราคาที่ผันผวนอยู่แล้ว ทำให้อาจจะต้องรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป จึงจะสามารถประเมินผลกระทบได้อีกครั้ง”นายเจมี่กล่าว
นายโย ชู กวน หัวหน้าฝ่ายหุ้นทุนตลาดอาเซียน ธนาคารยูบีเอส กล่าวว่า อาเซียนจัดเป็นเป้าหมายของนักลงทุน โดยตลาดอาเซียนถือเป็นตลาดใหญ่อันดับที่ 3 ของโลกสำหรับผู้บริโภค โดยมีประชากรกว่า 687 ล้านคน ใน 10 ประเทศ นำมาซึ่งโอกาสในการเติบโตอันไม่สิ้นสุดในเขตพื้นที่เศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภูมิศาสตร์การเมือง โครงสร้างพื้นฐาน ผู้บริโภค และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการเปลี่ยนแปลงที่โลกกำลังเผชิญ และด้วยความที่ประเทศไทยเป็นเหมือนประตูสู่เขตเศรษฐกิจนี้ เราจึงมีความยินดีที่ได้ทำการจัดการประชุม OneASEAN ที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งประกอบไปด้วยนักลงทุนจากทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ที่จะได้เข้ามาร่วมค้นหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงการได้พบปะกับผู้นำในแวดวงเดียวกันด้วย
นายเดวิด ราบิโนวิทซ์ หัวหน้าฝ่ายโครงสร้างตลาดและเบต้าโซลูชั่น ธนาคารยูบีเอส กล่าวว่า จากการที่เกิดการลงทุนในกองทุนมากขึ้นในอาเซียน บริษัทฯจึงได้จัดสัมมนาการค้าและการลงทุนเป็นครั้งแรกในประเทศไทยขึ้น ซึ่งตั้งใจที่จะเน้นย้ำให้เห็นถึงเทรนด์ รวมถึงโอกาสใหม่ๆ สำหรับนักลงทุน เพื่อให้สามารถรับผลประโยชน์จากสภาพตลาดในปัจจุบัน ที่มีการลงทุนในกองทุนเพิ่มขึ้น ทำให้เปลี่ยนภาพของการลงทุนไปมาก รวมทั้งในตลาดประเทศไทยเอง บริษัทฯยังเดินหน้าที่จะเป็นผู้ให้บริการการเงินชั้นนำในภูมิภาคนี้ สำหรับนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากเห็นการเติบโตของการลงทุนในกองทุนเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค โดยในงานสัมมนาบริษัทฯต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงลูกค้า เข้ากับแนวปฏิบัติและแนวทางดำเนินการ โดยการลงทุนชั้นนำของโลกผ่านแพลตฟอร์มที่บริษัทฯมี เพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดทุนในเขตอาเซียน
นายเอ็ดเวิร์ด ทีเธอร์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสตลาดอาเซียน ธนาคารยูบีเอส กล่าวว่า อาเซียนเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและมีอนาคตที่สดใส รวมถึงเป็นตลาดเศรษฐกิจที่โตเร็วที่สุดของเอเชียด้วย นอกจากนี้ยังรวมตลาดอื่นๆ ที่หลอมเข้ากับห่วงโซ่อุปทานของโลกด้วย อาทิ ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมถึงเป็นตลาดที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีก อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม ถึงแม้ว่าความท้าทายในการค้าระหว่างประเทศจะเป็นตัวฉุดการเติบโตของภูมิภาค ผู้ที่มีหน้าที่วางนโยบายทางเศรษฐกิจในทวีปนี้ก็ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทายนั้นๆ นอกจากนี้ ยังมองว่าอาเซียนเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการย้ายฐานการลงทุน และซัพพลายเชน อันสืบเนื่องมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
