นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ดัชนีหุ้นไทย และดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมาตอบรับ ปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) ในส่วนของการเจรจาการค้าเฟสแรก น่าจะสามารถตกลงกันได้ โดยคาดการณ์ว่าจะมีการลงนามร่วมกันในช่วงเดือนมกราคมนี้ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ประกอบกับธนาคารกลางจีน ได้ปรับลดการกันสำรองของสถาบันการเงิน ในส่วนของอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง (อาร์อาร์อาร์) จึงช่วยเสริมแรงกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนเพิ่มมากขึ้น
นายชัยยศกล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้บุกสถานทูตในกรุงแบกแดด ประเทศอีรัก ทำให้สหรัฐส่งกำลังทหารเข้าประเมินสถานการณ์ จำนวน 750 ราย ล่าสุดในช่วงวันศุกร์ (3 มกราคม) ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ยิงถล่มกันขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวแรงขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยหลักที่ต้องติดตามว่า จะเกิดการบานปลายหรือไม่ และจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นมากเท่าใด โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,585 – 1,620 จุด
“องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ได้ลดกำลังการผลิตลง จึงทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอยู่แล้ว รวมถึงหากความรุนแรงในตะวันออกกลางไม่สามารถคลี่คลายได้ มีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นต่อ โดยขณะนี้ราคาน้ำมันถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ ให้เลือกลงทุนในหุ้นที่ได้รับอานิสงค์จากปัจจัยโลก หรือสถานการณ์ในขณะนั้น รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวด้วย”นายชัยยศกล่าว
ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!
