ทองคำไทยไร้การเปลี่ยนแปลง ราคานิ่งสนิททั้งวัน ไม่ขึ้นและไม่ลง ทองแท่งขายออกบาทละ 22,200

วันที่ 10 มกราคม 2563  ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาทองคำภาคเช้าในประเทศว่า สมาคมค้าทองคำมีการปรับราคาทองคำเพิ่มขึ้นหรือลดลง ส่งทำให้ราคาทองแท่งขายออก อยู่ที่บาท (บาททองคำ) ละ 22,200 บาท รับซื้อ 22,100 บาท ส่วนทองรูปพรรณ ขายออก 22,700 บาท รับซื้อ 21,709.12 บาท ส่วนทองสปอตอยู่ที่ 1,548.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ อัตราแลกเปลี่ยน 30.28 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

นางสาวเบญจมา มาอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำ ยังมีแนวโน้มขาขึ้น แม้ในระยะสั้นอาจย่อตัวลงบ้าง แต่เชื่อว่าระยะกลางถึงยาวยังเป็นช่วงขาขึ้นอยู่ เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยง และความกังวลจากเหตุการณ์ต่างๆ เข้าสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับราคาขึ้นจำนวนมาก อาทิ ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่อาจยืดเยื้อต่ออีกสักระยะ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่แม้จะมีข้อตกลงกันได้เฟสแรก แต่ก็ยังมีการเจรจารอบอื่นๆ ที่ยังไม่มีความแน่นอนสูง การใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) แรงกดดันของเกาหลีเหนือ ความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างช่าๆ จึงกดดันหุ้นทั่วโลกให้ปรับฐาน สร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการผันผวนของดัชนหุ้น ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุน โดยการย้ายมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มขึ้น พร้อมให้กรอบของราคาทองคำปี 2563 ที่ระดับ 1,603-1,616 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ทั้งยังมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปถึง 1,700 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ได้ หากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเกิดความรุนแรงมากขึ้น

แม้ราคาทองคําในช่วงเช้าของตลาดการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าจะปรับตัวลดลง ทองคําเผชิญแรงขายทํากําไร เนื่องจากความคืบหน้าในเชิงบวกของการเจรจาการค้าสหรัฐและจีน ขณะที่มีกําหนดลงนามร่วมกันที่ทําเนียบขาวในวันที่ 15 มกราคมนี้ และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง เริ่มสงบลง รวมถึงสภาล่างของสหรัฐได้ผ่านญัตติจํากัดอํานาจของประธานาธิบดี ดอนัลด์ทรัมป์ ในการใช้ปฏิบัติการทางทหาร แต่ญัตติดังกล่าวยังมีโอกาสสูงที่จะไม่ผ่านการโหวตจากวุฒิสภา เพราะพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ทำให้การตอบโต้หรือการโจมตีด้วยวิธีการทางทหาร ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคตหากความขัดแย้งใดปะทุขึ้นอีกครั้ง โดยประเด็นที่น่าสนใจระหว่างสหรัฐและอิหร่านคือ กรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินยูเครนตก ในช่วงวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มในฐานทัพของสหรัฐ 2 แห่งในอิรัก ขณะที่สหรัฐเชื่อว่า เครืองบินดัวกล่าวถูกยิงด้วยขีปนาวุธของอิหร่าน และไม่ใช่ปัญหาเทคนิค จึงต้องติดตามการสอบสวนและผลที่จะตามมาอย่างใกล้ชิดต่อไปนางสาวเบญจมากล่าว

นางสาวเบญจมากล่าวว่า ประเด็นข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจกับมาสนับสนุนให้ราคาทองคําในระยะถัดไปปรับตัวสูงขึ้น ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า หากราคาทองคํายังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณแนวต้านที่ 1,552-1,567 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ได้ อาจทําให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาเพื่อสร้างฐานราคา รวมทั้งหากไม่สามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับแรกที่ 1,540 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของราคาทองคำในช่วงวานนี้ (9 มกราคม 2563) ได้ ราคาอาจอ่อนตัวลงต่อได้ โดยยังมีโอกาสที่ราคาจะปรับระดับทดสอบแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,528 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จึงแนะนํากลยุทธ์ในการลงทุนคือ เน้นเก็งกําไรในระยะสั้นแบะแบ่งทองคําออกขายหากราคาปรับตัวขึ้นแล้วไม่สามารถยืนเหนือ 1,552-1,567 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ได้ แต่หากผ่าน 1,580 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ให้ชะลอการขายออกไปก่อน ในขณะที่หากราคาอ่อนตัวมากกว่านี้ ให้พิจารณาบริเวณ  1,540-1,528 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์เป็นจุดในการเข้าซือสะสมเพื่อเก็งกำไรต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image