‘กรมฝนหลวงฯ’ จับมือ ‘กองทัพอากาศ’ จัดบินฝนหลวงปราบฝุ่นจิ๋ว

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการคลี่คลายสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ หรือพีเอ็ม 2.5 และหมอกควัน ตลอดจนสถานการณ์ภัยแล้งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ทั่วภูมิภาคของประเทศ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่น้อยลง อีกทั้งในปีนี้ปัญหาภัยแล้งมีแนวโน้มเกิดขึ้นเป็นเวลานาน ประกอบกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศและหมอกควันในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ๆ ที่กำลังเผชิญปัญหาดังกล่าว

นายสุรสีห์กล่าวต่อว่า จากการตรวจคุณภาพอากาศปัจจุบันในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่า มีค่าคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงขอให้พี่น้องประชาชนป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน เพื่อลดปัญหาการสูดฝุ่นในอากาศเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ควรมีการป้องกันและระวังตนเองเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ กรมฝนหลวงได้รับการประสานความร่วมมือสนับสนุนอากาศยานจากกองทัพอากาศ เพื่อใช้ดำเนินการภารกิจปฏิบัติการฝนหลวง ในการเร่งบรรเทาปัญหาฝุ่นในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ตลอดจนช่วยเหลือ พื้นที่การเกษตร การเติมน้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณนำเก็บกักน้อยกว่า 30%

ขณะนี้อากาศยานของกรมฝนหลวงบางส่วนยังอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการบูรณาการของทุกภาคส่วน ระหว่างกองทัพอากาศและข้าราชการพลเรือน เพื่อร่วมกันช่วยเหลือดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จ.ระยอง และ จ.สุราษฎร์ธานี ภายหลังขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่มีการร้องขอ ไม่มีฝนตกในพื้นที่เป้าหมาย เนื่องจากกลุ่มเมฆไม่สามารถพัฒนาตัวต่อไปเป็นเมฆฝนได้

สำหรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกประกาศเขตพื้นที่ภัยแล้ง มีจำนวน 20 จังหวัด ขณะที่สถานการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของปริมาณน้ำเก็บกักเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 14 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 107 แห่ง ทั้งนี้ จึงได้ขอให้ประชาชนร่วมรณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัด และร่วมกันวางแผนใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง ส่วนคุณภาพอากาศในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่ามีค่าคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ด้านแผนที่ปริมาณน้ำฝนสะสม 1 สัปดาห์ หรือเมื่อวันที่ 14-20 มกราคม 2563 พบว่า บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้บางส่วน ปริมาณน้ำฝนสะสมต่ำกว่า 10 มิลลิเมตร หากสภาพอากาศเหมาะสม กรมฝนหลวงจะเร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ต่างๆ ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image