วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ1,523.93 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,534.47 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,539.84 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 15.91 จุดหรือ 1.04% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,542.76 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,529.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 54,814.18 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,171.78 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,255.32 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 670.93 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ1,756.17 ล้านบาท
โดยนายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยตลาดหุ้นไทย ปิดในแดนบวกตามตลาดหุ้นในภูมิภาค ยกเว้น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลย ที่ปิดตลาดในแดนลบ โดยสาเหตุมาจากความผ่อนคลายปัจจัยกังวล ในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เนื่องจากผู้ติดเชื้อเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงจากเดิม 10% เหลือเพียง 4% เท่านั้น รวมทั้งยังมีแรงซื้อกลับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ นำโดยธนาคารไทยพาณิชย์ และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า รวมถึงหุ้นกลุ่สื่อสาร นำโดยแอดวานซ์ หลังจากดัชนีหุ้นดังกล่าวปรับลดระดับลงค่อนข้างแรงในช่วงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 โดยการปรับขึ้นของดัชนีเป็นผลของการดีดตัวขี้นหลังปรับลงแรง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 2% สนับสนุนให้หุ้นในกลุ่มพลังงาน อาทิ ปตท. และปตทสผ. ปรับบวกฟื้นตัวขึ้น
“แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ สภาฯพิจารณาร่างงบประมาณประจำปี 2563 ในวาระ 2 และวาระ 3 ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาไม่ยกการลงมติงบปี 2563 เป็นโมฆะ ในกรณีการเสียบบัตรแทนของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ รวมถึงสถานการณ์ไวรัสโคโรนาต่อจากนี้ด้วย สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลดีจากการเบิกจ่ายงบประมาณ 2563 อาทิ นิคมอุตสาหกรรม และรับเหมาก่อสร้าง โดยประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 1,523 จุด แนวต้านที่ระดับ1,547 จุด” นายฐกฤตกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
