ในภาวะที่โลกกำลังเผชิญกับโรคอุบัติใหม่ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โรคระบาดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อไปทั่วโลกในขณะนี้ โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจำนวนกว่าล้านคน ในขณะที่ประเทศไทย มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมรวมกว่า 2,423 ราย ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 32 ราย และรักษาหายกลับบ้านได้แล้วจำนวน 940 ราย
ไวรัสโคโรนา 2019 กลายเป็นสิ่งซึ่งประชากรโลก ต้องร่วมกันต่อสู้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ที่ไม่เพียงแต่บุคลากรทางการแพทย์ ต้องช่วยดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย ในส่วนของภาครัฐและประชาชนต้องร่วมมือกัน รู้สู้โควิด-19 เพื่อให้การแพร่กระจายของโรคระบาดเกิดขึ้นได้ยากที่สุด จนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดและผ่านพ้นภาวะโรคโควิด-19 ไปได้
แต่ในห้วงเวลานี้ที่กำลังควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด สถานพยาบาลก็ประสบปัญหาขาดแคลนเวชภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากาก N95 ชุด PPE และครุภัณฑ์ ที่บุคลากรทางการแพทย์จะใช้ในการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดภาพที่คนไทยหลากหลายคน และองค์กรต่างๆ ร่วมใจกัน เติมเต็มสิ่งของที่ขาดแคลนให้กับโรงพยาบาล
ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน หรือรัฐวิสาหกิจ อย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่เข้าไปสนับสนุนในด้านต่างๆ ให้แก่สถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ของไทย ในขอบข่ายพลังของกลุ่ม ปตท. ใน 4 ด้าน ได้แก่ พลังการให้ พลังความรู้ พลังงาน และพลังจิตอาสา
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. มีนโยบายร่วมกันทำงานในภารกิจสู้ภัยโควิด-19 อย่างเต็มที่ โดยแต่ละบริษัทได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมออกแบบและเตรียมการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความจำเป็นในทางการแพทย์ นับเป็นภารกิจสำคัญที่เร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน สู้ภัย โควิด-19 ครั้งนี้ ไปด้วยกัน
พลังการให้ อย่างที่ทราบกันว่าเวชภัณฑ์ต่างๆ ขาดแคลนเป็นอย่างมาก กลุ่ม ปตท. จึงใช้พลังแห่งการให้นี้ ร่วมบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ และสนับสนุนแท็บเล็ต 50 เครื่อง เพื่อใช้ในการรักษาทางไกล (Tele-Medicine)
จัดหาแอลกอฮอล์ทางการแพทย์กว่า 150,000 ลิตร ส่งมอบให้กับโรงพยาบาล รวมถึงหน่วยงานต่างๆ พร้อมมอบเสื้อกาวน์ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ที่ผลิตจากพลาสติก InnoPlus ซึ่งสามารถป้องกันการปนเปื้อนจากสารคัดหลั่งของผู้ป่วยและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ให้กับโรงพยาบาล 61 แห่ง ใน 24 จังหวัด รวมถึงผลิตหมวกและชุดคลุมอัดอากาศความดันบวก PAPR (Powered Air-Purifying Respirator) ให้กับบุคลากรทางการแพทย์
นอกจากนี้ ความเข้าใจโรคโควิด-19 ที่ถูกต้อง จะช่วยปกป้องและป้องกันตัวเองได้ถูกทาง พลังความรู้ จึงสำคัญไม่แพ้กัน กลุ่ม ปตท. จึงนำความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่มาพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังสนับสนุนเงินวิจัยชุดตรวจโควิด-19 ให้แก่สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) อีกด้วย
แม้ว่าจะอยู่ในภาวะวิกฤตเช่นนี้กลุ่ม ปตท. ยังคงไม่ละทิ้งภารกิจสำคัญที่จะดูแลความมั่นคงทาง พลังงาน ทั้งภาคไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง พร้อมทั้งลดภาระให้กับประชาชน กลุ่ม ปตท. จึงดำเนินมาตรการด้านพลังงานต่างๆ อาทิ ลดราคาขายปลีกเอ็นจีวีให้แก่กลุ่มรถโดยสารสาธารณะ โดยราคาขายปลีกอยู่ที่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563 และคงราคาเอ็นจีวีสำหรับรถทั่วไปที่ 15.31 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ 16 มีนาคม – 15 สิงหาคม 2563 พร้อมทั้งปรับลดราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) 45 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมเป็นเวลา 3 เดือน เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงพลังงานได้ในราคาที่ถูกลงในห้วงวิกฤตเช่นนี้
นอกเหนือจากพลังทั้งสามด้านแล้ว วิกฤตของโรคโควิด-19 ที่กำลังเผชิญอยู่ต้องการพลังของจิตอาสา ที่เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนสำคัญไม่แพ้กัน เพราะพลังของจิตอาสาสามารถแสดงออกมาได้ในหลายรูปแบบ ในภาวะโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด ส่งผลให้จำนวนผู้บริจาคโลหิตลดลง จนทำให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ประสบภาวะโลหิตขาดแคลน ผู้บริหารและพนักงานของกลุ่ม ปตท. จึงรวมพลังจิตอาสา บริจาคโลหิต จำนวนถึง 115,300 ซีซี
ในขณะเดียวกันกลุ่มจิตอาสา “ชมรมพลังไทย ใจอาสา กลุ่ม ปตท.” และ “มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน” ได้เชิญชวนผู้บริหาร พนักงานกลุ่ม ปตท. และชุมชนเครือข่าย มาแสดงพลังจิตอาสาร่วมจัดทำหน้ากากผ้าให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระดับสูง เป็นจำนวน 10,000 ชิ้น นอกจากหน้ากากผ้าแล้วกลุ่มจิตอาสายังได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรมจิตอาสาจัดทำ Face Shield ให้กับบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ จะผ่านพ้นไปได้ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจกันของคนในสังคม ป้องกันการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด โดยกลุ่ม ปตท. พร้อมเป็นกำลังใจให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้และร่วม #สานพลังใจWeFightTogether ฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน
