มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 9 ส.ค.2559
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวถึงผลการลงคะแนนเสียงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญว่า ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล จากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมือง และมั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมปที่วางไว้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจและการลงทุน ทั้งการลงทุนโครงการภาครัฐและเอกชนในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าผลการลงประชามติที่ออกมาแตกต่างกันในแต่ละภาค สะท้อนถึงความขัดแย้งในสังคม แต่ไม่ใช่สิ่งใหม่ เพราะเป็นสิ่งที่นักลงทุนไทยและต่างประเทศทราบกันอยู่แล้ว
โดยความเชื่อมั่นของนักลงทุน สะท้อนออกมาผ่านตลาดเงินและตลาดทุนอย่างชัดเจน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทก็ปรับแข็งค่าขึ้นเช่นกัน หลังมีเงินไหลเข้าในตลาดหุ้นและพันธบัตร อย่างไรก็ตาม ยังต้องระวังความผันผวนของค่าเงิน เพราะยังมีปัจจัยภายนอกหลายปัจจัย อาทิ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่งผลกระทบต่อความผันผวนของค่าเงินบาทและค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค
นายวิรไทกล่าวว่า ผลประชามติที่ออกมา จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ยังต้องรอดูว่าการลงทุนภาคเอกชนจะเกิดขี้นตามมามากน้อยเพียงใด และจะมีการปรับอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ หรือจีดีพีปีนี้เพิ่มขึ้นหรือไม่ในการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนกันยายน
