ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | อาจวรงค์ จันทมาศ www.facebook.com/ardwarong |
เผยแพร่ |
3.เปิดโลกทรรศน์และจินตนาการ
จะมีสิ่งใดที่เปิดมุมมองของมนุษย์ได้ดีไปกว่าวิทยาศาสตร์
– สมัยก่อนมนุษย์เราเคยเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางเอกภพ แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่า
โลกเราโคจรรอบดวงอาทิตย์ ไม่ต่างจากดาวเคราะห์อื่นๆ
ต่อมามนุษย์ยังเคยเชื่อว่าดวงอาทิตย์ของเราเป็นศูนย์กลางของกาแล็กซีทางช้างเผือก แต่แท้จริงดวงอาทิตย์เราอยู่ขอบกาแล็กซี แล้วโคจรไปรอบๆ กาแล็กซี (รูป 1)
– สมัยก่อนหลายศาสนาเชื่อว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาเป็นเหมือนตัวแทนของพระองค์
มนุษย์จึงมีความพิเศษเหนือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่าสิ่งมีชีวิตสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีผู้ทรงสติปัญญาคอยสร้าง และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็สามารถวิวัฒนาการจนสร่างกายมีความสลับซับซ้อนได้เอง
นอกจากนี้สารพันธุกรรมของมนุษย์เรายังคล้ายคลึงกับของสัตว์ รวมทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกมากมาย เท่ากับว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดรวมทั้งมนุษย์มีความเป็นเครือญาติ (ห่างๆ) กันอยู่
– มนุษย์เคยเชื่อว่า “เวลา” เป็นเพียงมายาและเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาเท่านั้น แต่ต่อมาในยุคของไอแซค นิวตัน “เวลา” กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่อย่างยิ่ง นิวตันมีสมมุติฐานว่าเวลาในเอกภพเดินไปด้วยอัตราเดียวกัน
สามร้อยปีหลังยุคนิวตัน อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สร้างทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษทำให้เรารู้ว่า คนสองคนอาจวัด “ช่วงเวลาเดียวกัน” ได้ไม่เท่ากัน ถ้าทั้งสองคนมีความเร็วต่างกันมากๆ ต่อมาไอน์สไตน์สร้างทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปซึ่งทำให้เรารู้ว่าแรงโน้มถ่วงส่งผลต่อเวลาได้
– ทุกวันนี้นักวิทยาการคอมพิวเตอร์สามารถสร้างโปรแกรมที่ท้าทายแนวคิดและความหมายของมนุษย์ได้มากมาย เช่น แอลฟาโกะ (AlphaGo) ที่สามารถเรียนรู้การเดินหมากของนักเล่นโกะมือาชีพได้เหมือนมนุษย์จนสามารถเอาชนะนักเล่นโกะระดับโลกได้ ความเจ๋ง (หรือน่ากลัว) ของมันคือ โปรแกรมนี้ไม่ได้ท่องจำรูปแบบแล้วคำนวณวิธีการเดินหมากออกมา แต่เป็นการเรียนรู้แล้วประมวลหาการเดินที่น่าจะนำไปสู่ชัยชนะได้
นอกจากนี้วิทยาศาสตร์ยังเป็นน้ำพุแห่งจินตนาการมากมายมหาศาล แนวคิดและเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดสุดยอดภาพยนตร์อย่าง back to the future, คนเหล็ก, อวตาร, The Interstellar, Gravity, Star Trek, Inception ฯลฯ ทำให้เกิดการ์ตูนร่วมสมัยอย่างโดราเอมอน หรือ เจ้าหนูอะตอม ฯลฯ
จินตนาการในแง่การแต่งเรื่องนั้นทำให้โลกเราน่าอยู่ (และทำเงินได้มหาศาล) แต่ไม่ใช่เท่านั้น จินตนาการยังทำให้โลกหมุนไปข้างหน้าและมีส่วนในการสร้างสรรค์ยุคใหม่ๆ ของมนุษย์อยู่มาก
การค้นพบทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งศาสตร์อีกหลายแขนงงอกงามจากการทดลองเชิงจินตนาการที่เรียกว่า thought experiment
มันคือการจำลองสถานการณ์บางอย่างที่ไม่สามารถทำได้บนโลกแห่งความจริง เพราะเงื่อนไขด้านเทคโนโลยี, เศรษฐกิจ จนถึงจริยธรรม ซึ่งผมจะยกตัวอย่างให้ฟังในโอกาสถัดๆ ไป
อาทิตย์หน้าจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลที่น่าสนใจให้ฟังนะครับ
โปรดติดตาม