‘บึงกาฬ’ ลงทะเบียนเราชนะกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนวันสุดท้าย-ใช้จ่ายวันแรกคึกคัก
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันสุดท้าย ที่กระทรวงการคลังเปิดให้กลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ หรือ กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนรับสิทธิ์จากมาตรการ “เราชนะ” ผ่านจุดบริการเคลื่อนที่ของ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ รวมถึงหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ของกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งบริเวณธนาคารกรุงไทยสาขาสี่แยกไฟแดงบึงกาฬ ยังคงมีประชาชนเดินทางมาลงทะเบียนใหม่ ยืนยันตัวตน และสอบถามข้อมูล จากเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการยืนยันตัวตน และสละสิทธิจากแบบเดิมมาใช้แบบบัตรประชาชนแทน และยังพบว่ามีประชาชนลงทะเบียนไม่ได้เนื่องจากบัตรประชาชนเก่า ต้องให้ไปทำบัตรใหม่ โดยมี จนท.ธนาคารกรุงไทย ออกมาให้บริการ
ทั้งนี้ กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มลงทะเบียนวันที่ 15-21 ก.พ. สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม เป็นต้นไป หากผู้ที่ได้รับสิทธิ์ จะได้รับเงินงวดแรก 4,000 บาท และงวดต่อไปรับทุกวันศุกร์ สัปดาห์ละ 1,000 บาท พร้อมเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกในวันที่ 5 มีนาคมคือวันนี้
กลุ่มลงทะเบียนวันที่ 22 ก.พ. – 5 มี.ค. สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม หากผ่านการคัดกรองจะได้วงเงิน พร้อมใช้สิทธิ์ครั้งแรกวันที่ 19 มีนาคม การใช้สิทธิ์ผ่านบัตรประชาชน ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ สามารถใช้สิทธิ์ผ่าน “บัตรประชาชน” เพียงใบเดียว สามารถใช้ที่ร้านค้า “ร้านธงฟ้า-ร้านค้าเราชนะ-ร้านค้าคนละครึ่ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังประชาชน กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ได้รับสิทธิ์ได้รับเงินงวดแรกจำนวน 4,000 บาท โดยที่บริเวณร้านบิ๊กเสือ ร้านค้าส่งที่ตั้งอยู่บนถนนสายบึงกาฬ – พังโคน เขตเทศบาลเมืองบึงกาฬ ในวันนี้ได้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาใช้สิทธิ์กันอย่างคึกคัก ทั้งโครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการธงฟ้าประชารัฐ และเราชนะ ซึ่งจากการสอบถามทางร้านไม่พบปัญหาการใช้บริการแต่อย่างใด เนื่องจากทางร้านใช้เครื่อง edc แบบเสียบบัตร จึงทำให้ระบบอ่านข้อมูลได้แม่นยำมากกว่าการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ
ส่วนเจ้าของร้านค้าส่งเหมยอี้ เบเกอช้อป ที่อยู่ใกล้กัน กล่วว่า หลังใช้งานผ่านแอพพ์ พบว่ามีปัญหาเรื่องการใช้งานผ่านแอพพ์ถุงเงิน เวลาใช้โทรศัพท์สแกนบัตรประชาชนที่มาใช้บริการพบว่าเลขบัตรประชาชนมาไม่เต็ม ทำให้ต้องกรอกเพิ่ม และจำนวนเงินที่รัฐจะโอนกลับคืนมาให้ทางร้านล่าช้ามาก ต้องคอยดูยอดเงินออกจากลูกค้า หรือไม่ก็ต้องจดรายการเอาไว้
คุณลุงจันทร์ไทย เรืองธานี อายุ 68 ปี ชาวอำเภอเมืองบึงกาฬ ที่ได้รับสิทธิ์ได้รับเงินงวดแรกจำนวน 4,000 บาท จากกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ได้เดินทางมานั่งเข้าคิวรอซื้อข้าวของเครื่องใช้ กล่าวว่า เงินที่ได้จะนำไปซื้อข้าวสารเอาไปไว้กิน เพราะไม่ได้ทำนา ที่เหลือก็ซื้อน้ำพริกน้ำปลา และอีกหลายอันหลายอย่าง ดีใจที่รัฐบาลมีโครงการดีๆแบบนี้มาให้ 
