เรื่องของคนที่ชื่อแฮร์รี่

วันนี้เอาเรื่องสนุกๆ เบาๆ ของต่างประเทศมาเล่าสู่กันฟังเป็นการคลายบรรยากาศความตึงเครียดในบ้านเราสักหน่อยคงไม่ผิดกติกานะครับเพราะเป็นเรื่องของคนที่ แฮร์รี่ ซึ่งจัดว่าเป็นชื่อที่ดังมากนะครับ อาทิ เจ้าชายแฮร์รี ดยุคซัสเซกซ์ ผู้เป็นพระโอรสของเจ้าหญิงไดอานาที่เป็นรู้จักของชาวโลกโดยทั่วไป หรือพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็เป็นชื่อที่ชาวโลกชื่นชมโดยทั่วหน้า แต่มีประเทศนอร์เวย์ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของยุโรป มีพื้นที่ 385,155 ตารางกิโลเมตรเพียงประเทศเดียวในโลกที่ใช้ชื่อ “แฮร์รี่” เป็นคำด่าหมายความถึงคนชั้นต่ำ คนหยาบคายเพราะเป็นชื่อที่ชนชั้นกรรมาชีพนิยมตั้งชื่อลูก ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากอังกฤษ-เยอรมันในขณะที่บรรดาชนชั้นสูงจะนิยมตั้งชื่อลูกเป็นภาษาเดนมาร์ก

ใน พ.ศ.2546 ชาวนอร์เวย์เป็นจำนวนมากเดินทางข้ามประเทศเข้ามาในสวีเดน เพื่อช้อปปิ้งเป็นประจำ ชาวนอร์เวย์มาซื้อของในสวีเดนเป็นเงินถึง 850 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลนอร์เวย์ไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร เนื่องจากใน พ.ศ.2537 ชาวนอร์เวย์ลงประชามติที่จะไม่เข้าร่วมในสหภาพยุโรป (อียู) แต่ชาวสวีเดนลงประชามติเข้าร่วมสหภาพยุโรป ดังนั้นสินค้าแทบทุกอย่างโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของนอร์เวย์จะแพงกว่าสินค้าในสวีเดนมาก เพราะสินค้าการเกษตรที่ขายอยู่ในสวีเดนนั้นถูกส่งมาจากฝรั่งเศส อิตาลี สเปน อังกฤษ ซึ่งต้นทุนการผลิตต่ำกว่าสินค้าเกษตรนอร์เวย์มาก ดังนั้น รัฐบาลนอร์เวย์จึงต้องให้เงินอุดหนุนเกษตรกรของตนสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่งทีเดียว

เรื่องที่รัฐบาลต้องให้เงินอุดหนุนเกษตรกรนี่ ประเทศที่เจริญแล้วเขาทำกันทุกประเทศแหละครับ ไม่ยังงั้นก็ไม่มีใครทำงานในภาคเกษตรกรรม เนื่องจากอาชีพเกษตรนั้นเป็นอาชีพที่เสี่ยงต่อการขาดทุน เพราะต้องขึ้นอยู่กับธรรมชาติและการตลาด (สินค้าการเกษตรนี่ผู้ซื้อกำหนดราคานะครับ ไม่เหมือนสินค้าอุตสาหกรรม หรือบริการที่คนขายเป็นผู้กำหนดราคา) อีกอย่างหนึ่งคือชาวนาก็เป็นคนเหมือนกัน

ดังนั้น มาตรฐานการครองชีพและคุณภาพชีวิตก็น่าจะเหมือนกับคนทั่วไป ไม่ใช่จนจะตายเหมือนชาวนาไทย คือ ต้องมีบ้าน สามารถส่งลูกเรียนหนังสือได้ มีเสื้อผ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนคนอื่นๆ เขา

Advertisement

ดังนั้นถ้ารัฐบาลไม่ให้เงินอุดหนุนเกษตรกรแล้วละก็ คนก็จะเลิกเป็นชาวนากันหมด เพราะแค่รับจ้างชั่วครั้งชั่วคราวก็ได้เงินมากกว่าทำนาทั้งปีเสียอีก ส่วนชาวนาของประเทศที่ยากจนนั้น รัฐบาลไม่ให้เงินอุดหนุนหรอก เพราะชาวนาไม่มีทางเลือก เนื่องจากนอกจากทำนาแล้ว ชาวนาไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร เนื่องจากเคยแต่ทำนา ยังไงๆ ก็ต้องทำนามันทั้งตาปีตาชาติ ท่านผู้อ่านคงทราบดีว่าถ้าคิดค่าแรงในการทำนาด้วยแล้ว ชาวนาทุกคนขาดทุนทั้งนั้นแหละครับ มิหนำซ้ำการทำนานี่เหนื่อยเหลือแสนเลยนะครับ ใครไม่เชื่อก็ลองไปทำนาดูสัก 20-30 นาทีเถอะครับ แล้วจะซาบซึ้ง

เมื่อรัฐบาลนอร์เวย์หมดท่าเนื่องจากเงินไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมหาศาลทุกวัน ก็เลยใช้ลูกไม้เก่าคือ ด่าชาวนอร์เวย์ที่ข้ามไปซื้อของในสวีเดนว่าเป็นพวกแฮร์รี่ นัยว่าไม่รักชาติด้วยนั้นแหละ แต่โดนชาวนอร์เวย์ที่ไปช้อปปิ้งที่สวีเดนก็สวนกลับว่าพวกเขาฉลาดต่างหาก รัฐบาลต่างหากที่โง่เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระเป๋าสตางค์ไม่เห็นเกี่ยวกับชาตินิยมแต่อย่างใดเลย

เรื่องแบบว่า เอะอะอะไรก็อ้างเรื่องชาติ รักชาติ อะไรกันอย่างนี้ พวกฝรั่งเขาเห็นว่าตลกแล้วก็เชยด้วย เนื่องจากพอใครมาพูดเรื่องรักชาติแล้วก็จะโดนถามกลับว่า “ชาติคืออะไร?” เพราะว่าตอนนี้พวกยุโรปเขารวมตัวกันเป็นสหพันธรัฐยุโรปเอาตามแบบสหรัฐอเมริกาแล้ว การพูดถึงชาติ นี่ออกจะดูแปลกๆ

Advertisement

สำหรับประเทศสวีเดนนี่ก็แสบใช้ได้เหมือนกัน ครั้นเห็นโอกาสงามๆ อย่างนี้เข้าก็เลยขอแจมด้วยการประกาศให้คูปองเพื่อช้อปปิ้งฟรีมูลค่า 4,100 บาท แก่คนนอร์เวย์ที่ชื่อแฮร์รี่ 10 คนแรก ที่เข้ามาที่ศูนย์การค้าที่ใกล้พรมแดน ส่วนคนชื่อแฮร์รี่ที่มาทีหลังก็มีโอกาสชิงรางวัลมูลค่า 42,000 บาท คือ 10 เท่าของราคาคูปองจากการตอบปัญหาเรื่องรสนิยมของคนที่ชื่อแฮร์รี่ เพื่อแสดงว่าคนที่ชื่อแฮร์รี่ไม่ใช่คนเฟอะฟะแต่อย่างใด เรียกว่าใช้ชั้นเชิงแบบชิงโชคเกมโชว์เลยทีเดียวละ

งานนี้มองๆ แล้วก็พอจะเดาได้ว่าใครจะชนะ เพราะเท่าที่เห็นมาแล้วทั่วโลก เรื่องรักชาติกับราคาของที่เกี่ยวกับกระเป๋าสตางค์โดยตรงแล้ว เรื่องกระเป๋าสตางค์ของตัวเองกินขาดทุกทีแหละครับ เหมือนพวกด่าพวกที่ใช้อภิสิทธิ์แรงๆ พอตัวเองเกิดมีอภิสิทธิ์เข้าก็เห็นเงียบกันแทบทุกคน

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image