ต๋อง เชิญยิ้ม นักแสดงตลก กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด ได้ส่งผลกระทบต่อตนและวงการบันเทิงที่ต้องมีการร่วมมือกับทางรัฐบาลเพื่อไม่ให้เกิดการสุ่มเสี่ยงในการแพร่เชื้อ โดยกองถ่ายก็ได้งดการถ่ายทำตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อไม่มีงานก็ทำให้ไม่มีรายได้ ซึ่งการแพร่ระบาดในครั้งแรกได้ตัดสินใจขายโฮมสเตย์ เมื่อถึงเฟสสองก็ยังไม่พอไปได้ แต่เมื่อมาถึงเฟสสาม กลายเป็นคลัสเตอร์กระจาย ทั้งนี้ตนก็แอบมองและคิดเล็กๆว่าวัคซีนที่จะได้รับจะทั่วถึงประชาชนทุกคนหรือเปล่า ซึ่งตนก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนถึงแม้ว่าลึกๆก็รู้สึกกลัวและเชื่อว่าหลายๆคนก็อาจจะรู้สึกแบบตน ในเรื่องผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน อีกทั้งยังห่วงลูกและอนาคตของครอบครัว
ที่สำคัญธุรกิจที่วางเอาไว้ก็เกิดการสะดุดเพราะไม่มีรายรับที่จะมาสร้างต่อ ดำเนินการต่อ ซึ่งก็ต้องขายบ้านที่ลำลูกกาเพื่อที่จะให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อ แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อุปกรณ์การก่อสร้างและเหล็กรวมถึงค่าแรงช่างสูงขึ้นก็จะอยู่ในสถานะการที่ต้องจ่ายออกตลอดแต่ไม่มีรายรับหมุนเวียนเข้ามา ทำให้เกิดการสะดุดและเกิดปัญหาทำให้ตนคิดถึงว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออนาคตต่อตนเองและครอบครัว เพราะว่าทุกวันนี้ก็จะมีรุ่นเล็กๆเติบโตขึ้นมา อย่างตนก็อาจจะได้รับงานน้อยลง ถูกไปเป็นดารารับเชิญ จึงจำเป็นต้องสร้างธุรกิจที่พอคิดว่าสามารถหาเลี้ยงตนเองได้ในช่วงบั้นปลายชีวิต
ที่เลือกมาอยู่ที่จังหวัดนครนายก แม้ว่ารายได้นั้นจะมีไม่มากเท่าไหร่นัก ขอแค่สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ก็เพียงพอ แต่ตอนนี้มาเกิดสถานการณ์ระลอกสาม ซึ่งร้ายแรงมาก ทั้งนี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่ประสบปัญหามากกว่าตน แต่มันก็ต้องสู้ ทำให้ตนก็รู้สึกว่าตอนนี้เหมือนใช้ชีวิตไปวันๆ จะไปซ้ายหรือจะไปขวาดีซึ่งมันก็บอกไม่ถูก อย่างรีสอร์ทที่ตนกำลังสร้างอยู่นี้ ตอนแรกคาดการณ์ว่าจะเปิดช่วงเดือนมีนา เมษาที่ผ่านมา แต่ก็มาสะดุดกับโควิดในครั้งนี้ ซึ่งตอนนี้คาดว่ารีอสร์ทที่กำลังเร่งสร้างอยู่นี้น่าจะเสร็จช่วงต้นเดือนธันวาคมในปีนี้
ทั้งนี้หลายคนอาจคิดว่าที่ผ่านมาเงินรายได้ที่ตนทำมาหายไปไหนหมด บ้างอาจะคิดว่าตนเองไปเล่นการพนันจริงแล้วตนนำเงินที่เก็บมามาสร้างธุรกิจที่ตรงนี้เพื่อหาเลี้ยงชีวิตตนเองและครอบครัวในอนาคต แต่ก็มาสะดุดเพราะการแพร่ระบาดโควิดที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ซึ่งมันก็กระทบไปทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ตนได้โทรคุยกับเพื่อนที่สปป.ลาวเรื่องการฉัดวัคซีน ทราบว่างทางเพื่อนที่อยู่ที่ สปป.ลาวได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว โดยนำบัตรประชาชนไปตามจุดต่างๆแล้วเข้ารับการฉีดได้เลยทันที ซึ่งนี่คือประเทศเพื่อนบ้านเรา ทำให้ตนรู้สึกอิจฉาเพื่อนที่อยู่ที่สปป.ลาว ทั้งๆที่ศักยภาพของเราก็น่าที่จะมีศักยภาพที่ดีกว่า ทั้งนี้ตนเองนั้นอยากฉีดวัคซีน และด้วยที่ตนเป็นคนของสังคมและต้องพบปะคนมากมาย
ในตอนท้ายต๋อง เชิญยิ้ม ได้บอกว่า ในสถานการณ์ตอนนี้ทุกคนก็ประสบพบเจอเหตุการณ์เหมือนกับตนไม่มากก็น้อย ทุกวงการ ทุกสถานที่ ทุกจังหวัดของประเทศไทย กำลังใจนั้นสำคัญที่สุดที่จะช่วยเราได้ มีอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียว บางทีมันมีอะไรที่ต้องคุยกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง โอเคเพื่อนฝูงอาจจะไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเราได้มากมาย แต่อย่างน้อยได้แง่คิดได้คำแนะนำ ได้หาทางออก ซึ่งถึงยังไงก็ต้องสู้ อย่ามัวแต่รอว่ามันจะดีขึ้นหรือรอว่ามันจะดีกว่านี้ เราไม่รู้ ตอบไม่ได้ แต่ ณ ปัจจุบัน ลมหายใจที่มีอยู่ นั้นอยู่เพื่อใคร ก็เพื่อครอบครัว
ดังนั้นเราต้องสู้ไปด้วยกัน และก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และตนขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องวงการบันเทิงทุกคน พี่น้องประชาชน ฝากเป็นกำลังใจ ซึ่งหนึ่งกำลังใจจากตนอาจจะไม่ได้มากมายแต่ตนเชื่อว่าคนไทยมี่น้ำอดน้ำทนที่จะต่อสู้ปัญหาในแต่ละวัน ซึ่งตอนนี้เอาแค่แต่ละวันก่อนก่อนแล้วค่อยไปถึงอนาคตซึ่งมันยังมองไม่เห็นตนเองก็มองไม่เห็น อีกทั้งลูกตนยังเล็กตนก็อายุ 50 กว่าแล้วไม่รู้จะจากไปวันไหน แต่ตนก็จะสู้เพื่อลูกเมียตราบใดที่ตนตื่นมายังมีลมหายใจก็เหมือนตนถูกรางวัลที่หนึ่งทุกวันที่ตื่นขึ้นมา ซึ่งการถูกลอตเตอรี่คือรางวัลที่สอง
