แบงก์ชาติ-ส.ธนาคารไทย แถลงคืนเงินเข้าบัญชีบัตรเดบิตครบหมดแล้ว

แบงก์ชาติ-ส.ธนาคารไทย แถลงคืนเงินเข้าบัญชีบัตรเดบิตครบหมดแล้ว

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ได้แถลงข่าวร่วม ความคืบหน้าการดำเนินการกรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต โดยระบุว่า ตามที่ได้ชี้แจงเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 กรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้า โดยเกิดจากมิจฉาชีพสุ่มข้อมูลบัตรและนำไปสวมรอยทำธุรกรรม โดยพบว่าระหว่างวันที่ 1-17 ตุลาคม 2564 มีบัตรของธนาคาร จำนวน 10,700 ใบ ถูกนำไปทำธุรกรรมลักษณะดังกล่าว มูลค่ารวมประมาณ 130 ล้านบาท ซึ่งแต่ละธนาคารมีระบบการตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติตามลักษณะประเภทร้านค้าและประเภทสินค้าอยู่แล้ว จากเหตุการณ์ดังกล่าว ธนาคารจึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันและดำเนินการแก้ปัญหาไปแล้ว

ธปท.และสมาคมธนาคารไทยขอชี้แจงการดำเนินการเพิ่มเติมล่าสุดของธนาคาร ดังนี้

1.วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ธนาคารได้คืนเงินให้แก่ลูกค้าบัตรเดบิตที่ได้รับความเสียหายในกรณีข้างต้นครบทุกรายแล้ว ในส่วนของบัตรเครดิตได้ดำเนินการตั้งพัก เร่งตรวจสอบ และยกเลิกรายการ โดยลูกค้าไม่ต้องชำระเงินตามยอดเรียกเก็บที่ผิดปกติและไม่มีการคิดดอกเบี้ย

Advertisement

2.ธนาคารได้ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนเรียบร้อยแล้ว ได้แก่
(1) ตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ ให้ครอบคลุมธุรกรรมที่มีจำนวนเงินต่ำและที่มีความถี่สูง
(2) ติดตามเฝ้าระวังรายการธุรกรรมจากต่างประเทศเป็นพิเศษ
(3) แจ้งเตือนลูกค้าในการทำธุรกรรมทุกรายการตั้งแต่รายการแรก และ
(4) ประชาสัมพันธ์วิธีการป้องกันความเสี่ยง เช่น การปรับวงเงินในบัตรให้เหมาะสมกับการใช้จ่าย หลีกเลี่ยงการผูกบัตรกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่ไม่น่าไว้ใจ

ทำให้ปริมาณธุรกรรมผิดปกติในลักษณะดังกล่าวลดลงมาก โดยธนาคารจะติดต่อสอบถามลูกค้าเพิ่มเติมกรณีพบรายการต้องสงสัย ทั้งนี้ หากพบความเสียหายเพิ่มเติมจากกรณีข้างต้นลูกค้าบัตรเดบิตจะได้รับการคืนเงินภายใน 5 วันทำการ

นอกจากนี้ ธปท.และสมาคมธนาคารไทยได้หารือแนวทางเพื่อผลักดันให้ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรทุกรายกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการบังคับใช้การยืนยันตัวตนก่อนทำรายการชำระเงินกับบัตรเดบิตสำหรับทุกร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะร้านค้าในต่างประเทศ เช่น การใช้ระบบการยืนยันตัวตนของเครือข่ายบัตรที่ให้ลูกค้าต้องยืนยันตัวตนโดยใส่เลข OTP ก่อนร้านค้าทำการตัดบัญชี ซึ่งเป็นการดูแลความปลอดภัยที่เข้มกว่ามาตรฐานที่เครือข่ายบัตรกำหนดไว้ รวมทั้งยกระดับการบริหารจัดการความเสี่ยงในการทำธุรกรรมของลูกค้า และนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ป้องกันและตรวจจับภัยคุกคามทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ธปท.และสมาคมธนาคารไทยขอเรียนว่า ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีการบริหารความเสี่ยงสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และธนาคารร่วมกับชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริต ชมรมบัตรเครดิต และศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคธนาคาร (TB-CERT) ในการพัฒนาระบบป้องกันให้เท่าทันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ และร่วมกันสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการทางการเงินดิจิทัลเพื่อให้ประชาชนเข้าใจและเพิ่มความระมัดระวังการทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น การทำธุรกรรมกับแพลตฟอร์มที่ไม่มีการยืนยันตัวตนก่อนใช้งาน หรือไม่มีการใช้ OTP รวมทั้งหมั่นตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่จะกระทำการทุจริตทางการเงินใดๆ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้มากขึ้นต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image