สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง ที่จังหวัดลำพูน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ พลเอก ประสาท สุขเกษตร เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมขับเคลื่อนโครงการ 5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง ระดับกระทรวง และติดตามผลการดำเนินงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ,เกษตรและสหกรณ์จังหวัด, เกษตรจังหวัด, ปราชญ์เกษตร, ภาคประชารัฐ, สถาบันการศึกษา และประธานกรรมการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบบเบ็ดเสร็จ 17 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมประชุม โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร ปลัดจังหวัดลำพูน ให้การต้อนรับ ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน

เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้จัดทำ “โครงการ 5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเผยแพร่แนวพระราชดำริด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ไปสู่สาธารณชน โดยได้ส่งเสริมให้เกษตรกรที่มีความสมัครใจ น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองอย่างเหมาะสม เพื่อมุ่งหวังให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้

ในปีนี้ (พ.ศ.2560) ได้คัดเลือกเกษตรกรที่มีความพร้อมในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว จำนวน 70,000 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ เกษตรกรกลุ่มพร้อมมาก จำนวน 21,000 ราย ดำเนินการแล้วในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2560 , เกษตรกรกลุ่มพร้อมปานกลาง จำนวน 42,000 ราย จะดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2560 และเกษตรกรกลุ่มพร้อม จำนวน 7,000 ราย ดำเนินการช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2560 โดยจะมีเกษตรกรกลุ่มพร้อมมากที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการให้คำแนะนำการดำเนินกิจกรรมตามแผนการผลิตให้แก่เกษตรกรกลุ่มอื่นๆ ต่อไป

“เกษตรทฤษฎีใหม่จะช่วยได้ถ้าเราทำได้สำเร็จตามเป้าหมายก็เป็นบุญกุศล  ปีนี้เราจะผลักดันให้ได้ 70,000 ราย ทั่วประเทศในการจัดทำเกษตรทฤษฎีใหม่  แต่กำลังของเกษตรกรในแต่ละคนไม่เท่ากัน ฐานะไม่เท่ากัน ก็จะให้เกษตรกรเริ่มทำทีละน้อยโดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ตามกำลังความสามารถของเกษตรกร จะไม่ให้เกษตรกรไปกู้หนี้ยืมสินอะไรเพราะว่ามันเป็นภาระ และไม่มีภูมิคุ้มกัน และอยากให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ ทั้งนี้พอทำเกษตรทฤษฎีใหม่ได้ในขั้นที่หนึ่งสำเร็จก็จะต่อยอดไปสู่เกษตรกรรายย่อยรวมแปลงกันทำในรูปแบบของแปลงใหญ่ และก็มองเห็นช่องทางธุรกิจต่อไปในอนาคต

Advertisement

สำหรับเรื่องการสอนทำบัญชีครัวเรือนนั้น  ผมเห็นข้อดีนอกเหนือจากวัตถุประสงค์หลักนั่นคือ  การทำบัญชีแล้ว  การทำหน้าที่ครู  คำว่าครูกับลูกศิษย์ตัดกันไม่ขาด  ไม่มีกำแพงกั้น  ความเป็นครูทำให้ใกล้ชิดกับเกษตรกรได้ง่าย  ผมอยู่กระทรวงเกษตรฯ มา 2 ปี คิดว่าอุดมการณ์ของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ มี 2 ข้อ คือ 1) ต้องรักและปฏิบัติกับเกษตรกรเหมือนญาติของเรา 2) ต้องมีอุดมการณ์ของความเป็นครู  ข้าราชการกรมต่าง ๆ ก็ต้องทำหน้าที่ครูเหมือนกัน  คือการให้ความรู้  คำแนะนำ  แต่ต้องใส่จิตใจของความเป็นครูด้วย  ไม่ใช่แค่ทำตามหน้าที่” พลเอก ประสาท สุขเกษตร กล่าวเพิ่มเติม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image