⦁…หลอม “ทุกใจไทย” รวมเป็นหนึ่ง ส่งเสด็จ “พลังแห่งแผ่นดิน” สู่สวรรคาลัย อาลัยท้นปฐพี คุณความดีแห่งพระราชจริยวัตร แผ่สถิตทั่วทุกจิตวิญญาณ “พสกนิกร” ตราบนิรันดร์
⦁…ภาพ “ผองชนชาวไทย” ทุกเพศทุกวัย จับจองทางเท้าสองฝั่งถนน นั่งนอนยืนเดินข้ามหลายวันหลายคืน รอร่วม “พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ” ท่ามกลางทั้งสายฝนในบางวัน ทั้งแดดระอุในบางเวลา ไม่มีย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งปวง คือประกาศศรัทธาต่อ “บารมีพระองค์ท่าน” ให้ทั่วโลกได้รู้โดยไม่ต้องบอกกล่าว
⦁…ถนนทุกสาย พื้นที่ทุกตารางในผืนแผ่นดิน ที่ปรากฏต่อสาธารณชนทุกหนแห่ง “พสกนิกรชาวไทย” พร้อมใจกันตกแต่งด้วยทุกสิ่งอย่างที่เห็นว่ามีคุณค่าต่อการแสดงออกในความรำลึกถึง “พระองค์ท่าน” เป็น “ภาพแห่งความรักและศรัทธา” ที่ทั้งโลกนี้ และทุกกาลเวลา ไม่มี “ที่ใด ครั้งใด” จะเปรียบได้ บ่งบอกถึง “ความเป็นศูนย์รวมใจยิ่งใหญ่” ให้ประจักษ์แก่สากลโลก เป็นภาพที่จะบันทึกไว้ให้รำลึกถึงชั่วนิรันดร์
⦁…ไม่เพียง “ทุ่งพระเมรุ สนามหลวง” ซึ่งประดิษฐาน “พระเมรุมาศอันเป็นที่สุดแห่งความวิจิตรบรรจง ทรงความหมายถึงแก่นพระธรรมลึกซึ้ง” และ “ถนนราชดำเนิน” ที่ “ขบวนพระราชพิธี” เคลื่อนเท่านั้น ที่ “ประชาชน” มาเฝ้ารอส่งเสด็จคลาคล่ำ “มืดฟ้า มัวดิน” ทุกจังหวัด ทุกหนแห่งในผืนแผ่นดินไทย ตลอดจนสถานทูตไทยในต่างประเทศ อันถือเป็น “ดินแดนในร่มพระบรมโพธิสมภาร” ประชาชนต่างพากันพร้อมใจไป “ถวายความจงรักภักดี” ให้สากลโลกได้รู้ได้เห็น “เสียงไห้หวนอาลัยรัก” กระหึ่มไปทั้งสามโลก
⦁…ที่ปรากฏเป็นความงดงามยิ่งคือ “จิตอาสา” ของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพ ที่อธิษฐานจิตอย่างคงมั่น เสียสละแรงกาย แรงใจ แรงความคิด กำลังทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลให้ “เพื่อนผู้ร่วมเศร้าด้วยความอาลัย” คลายจากบางปัญหาหากต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ข้าวปลาอาหาร น้ำดื่ม หยูกยา เครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆ ที่หลงลืม หรือขาดแคลน เป็นวาระยิ่งใหญ่แห่งการแสดงน้ำใจให้แก่กัน
⦁…ความยิ่งใหญ่อันเนื่องจาก “อาลัยในพระองค์ท่าน” น้อมสู่การสร้างสรรค์ “ศิลปะทุกแขนง” ครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา “นักดนตรี” เขียนเพลง แต่งทำนอง “จิตรกร” วาดภาพ แต่งสี “ประติมากร” ปั้นรูป เล่าตำนาน “ช่างสลัก” วาดลวดลาย ลงฉลุ และอีกสารพัด “ศิลปิน” ทุกด้าน ต่างลงไม้ลงมือด้วยทุ่มเททั้งใจ เพื่อร่วมรำลึก ก่อเกิด “พลังศิลปะ” เกริกฟ้าก้องโลก ปลุก “จิตวิญญาณคนไทยให้เข้าถึงความละเอียดอ่อน งดงาม” ครั้งใหญ่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
⦁…โลกยุคออนไลน์ ที่ “สรรพสิ่งแพร่ผ่านสู่พลโลกได้รวดเร็วทันที” ทำให้ “ฝีมือศิลปินไทยผู้สร้างงานศิลปะพรั่งพร้อมทุกแขนงนี้” เป็นที่รับรู้อย่างตื่นตาตื่นใจคนทั้งโลก ย่อมนับเป็น “บุญญาธิการของพระองค์ท่าน” ที่ทำให้ “สากลโลก” ได้รับรู้ถึง “ความสามารถและจิตวิญญาณสูงส่ง” ของ “ศิลปินไทย”
⦁…อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเห็นใจ “เพื่อนพี่น้องไทย” อีกไม่น้อย ที่ห้วงเวลาที่ทุ่มเทใจร่วม “อาลัย” นี้ กลับต้องเผชิญทุกข์ซ้ำด้วย “อุทกภัย” ดังนั้นจึงได้แต่ไหว้วอน “ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ” ได้โปรดน้อมใจลงเห็น “ทุกข์ของอาณาประชาราษฎร์” เข้าไปช่วยเยียวยากันหน่อย อย่าเอาแต่ “เพ้อเจ้อกับแผนในอนาคต และเอาแต่โทษอดีต” ปล่อยให้ “ประชาชนเผชิญทุกข์ตามยถากรรมในปัจจุบันขณะ”
ชโลทร