เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

โล่เงิน : กางรายงาน สปท. คลี่สูตรปฏิรูปแต่งตั้งสีกากี (ตอนจบ) สัดส่วน 70 : 30 โมเดลนับอาวุโส สเป๊กหินหัวหน้าหน่วย

03.07.2017

“โล่เงิน” ฉบับที่แล้ว เปิดปมปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายในวงการสีกากี ยกเหตุและผลจำเป็นต้อง “ปฏิรูปการแต่งตั้งตำรวจ”

ย้อนอ่าน คลิกที่นี่

อ้างอิงตามรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. เรื่อง “การวางแนวทางมาตรฐานการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ (ฉบับปรับปรุง)” ที่ชี้ว่า กฎ เกณฑ์ ที่ใช้ในปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์ หากอยากเห็นการแต่งตั้งที่เป็นธรรม เนื่องจากยังมีช่องว่างของกฎเกณฑ์และวิธีการ ขยายความต่อในฉบับนี้

“สปท.” กำหนดแนวทางปฏิรูปไว้ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจจะต้องเป็นธรรม โดยคำนึงถึงความอาวุโส ผลการปฏิบัติงาน ความรู้ ความสามารถ และมีการวางตัวข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับงาน

เมื่อโปร่งใส เป็นธรรม ตำรวจสามารถเจริญเติบโตได้ด้วยผลปฏิบัติงาน ไม่ต้องวิ่งเต้นหาใครสนับสนุน จะทำให้ตำรวจทำงานกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา

รายงานฉบับนี้เสนอวิธีการและขั้นตอนในการพิจารณาแต่งตั้ง สาระโดยสังเขป

ดังนี้

1.การคัดเลือกหรือแต่งตั้งดำเนินการในรูปแบบคณะกรรมการ หัวหน้าหน่วยเป็นประธาน รองหัวหน้าทุกคนเป็นกรรมการ ให้ผู้มีอำนาจคัดเลือกแต่งตั้งตามที่กรรมการเห็นชอบ

2. การแต่งตั้งให้ทำปีละครั้ง ในวาระประจำปี ระดับสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนของทุกปี การแต่งตั้งจะทำนอกวาระประจำปีได้ต่อเมื่อมีเหตุผลความจำเป็นอย่างแท้จริงที่ไม่อาจรอได้ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก่อน ทั้งนี้ หากการแต่งตั้งไม่แล้วเสร็จ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต้องเสนอ ก.ตร. ขยายเวลา แต่ได้ไม่เกิน 30 วัน

3. การพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้พิจารณาโดยยึดอาวุโส ประกอบความรู้ ความสามารถ ความประพฤติ โดยเฉลี่ยน้ำหนักระหว่างความอาวุโส ความรู้ ความสามารถ และความประพฤติเท่าๆ กัน โดยให้ เพิ่ม-ลด ลำดับอาวุโสในบัญชีอาวุโส (สำหรับแต่งตั้ง) ตามผลการปฏิบัติงานและความประพฤติ กำหนดหลักเกณฑ์การเพิ่มอาวุโสในการแต่งตั้ง ให้มีการประเมินความรู้ ความสามารถ ความประพฤติของข้าราชการตำรวจ โดยให้กองบัญชาการกำหนดเกณฑ์การประเมินใช้ในการให้คะแนนการปฏิบัติงานของตำรวจแต่ละระดับ กำหนดข้อพิจารณาในการประเมินอย่างชัดเจน ประกาศทราบโดยทั่ว สำหรับหน่วยป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (โรงพัก) ต้องมีส่วนราชการใกล้เคียงภาคประชาชน เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัง กต.ตร. สถานี (ซึ่งออกแบบใหม่) มีส่วนร่วมพิจารณา

การประเมินทำในรูปกรรมการมีหัวหน้าหน่วยเป็นประธาน รองหัวหน้าทุกคนเป็นกรรมการ และต้องประกาศผลการประเมินอย่างเปิดเผย เปิดช่องให้อุทธรณ์ร้องทุกข์ได้

เมื่อผลออกมาผู้ที่ได้คะแนนประเมินสูงสุด ร้อยละ 20 ของจำนวนตำรวจที่มีตำแหน่งระดับเดียวกันในหน่วย จะได้บวกเพิ่มระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ไป “เพิ่มอาวุโส” แต่ใช้ในการแต่งตั้งเท่านั้น ทั้งนี้ ก.ตร. สามารถพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่จะเพิ่มจำนวนปี นอกเหนือจากที่หน่วยกำหนดได้

ขณะเดียวกัน หากข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทางวินัยสูงกว่าถูกภาคทัณฑ์ จากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือความประพฤติส่วนตัว จะถูกลดจำนวนปีอาวุโส หากเป็นโทษทางวินัยอันเกิดจากปฏิบัติหน้าที่ราชการตามระเบียบ ต้องให้ ก.ตร. วินิจฉัย โดยการ “ลดอาวุโส” นี้ใช้เพื่อการแต่งตั้งเท่านั้นเช่นกัน ต่อไปการจัดทำบัญชีอาวุโสในการแต่งตั้ง ให้เรียกว่า “บัญชีอาวุโส ประกอบความรู้ ความสามารถ และความประพฤติ”

ทั้งนี้ อาวุโสบวกเพิ่มที่ได้รับ ให้สะสมไว้ใช้ได้จนกว่าจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น

4.การพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาจากผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน มียศและระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับตามกฎ ก.ตร. โดยใช้เวลาการดำรงตำแหน่งตามปกติ ก่อนมีการเพิ่ม-ลดอาวุโส ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. ถึงรอง ผบ.ตร. และเทียบเท่า ให้พิจารณาเรียงตามอาวุโส

ส่วนตำแหน่งระดับสารวัตร (สว. ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) นั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน

ส่วนแรก ร้อยละ 70 ของตำแหน่งว่าง พิจารณาเรียงตามลำดับบัญชีอาวุโสประกอบความรู้ ห้ามข้ามลำดับ เว้นแต่เป็นเหตุสุดวิสัยอย่างแท้จริง

ส่วนที่ 2 ร้อยละ 30 ของตำแหน่งว่าง พิจารณาจากผู้เหมาะสม พิจารณาโดยข้ามอาวุโสประกอบความรู้ฯ ได้ แต่ต้องแสดงเหตุผลให้ชัดเจนว่าเหมาะกว่าผู้ที่อาวุโสกว่าอย่างไร ทั้งนี้ การจะแต่งตั้งข้ามบัญชีอาวุโสประกอบความรู้ฯ

ทุกกรณี ต้องให้ ก.ตร. เห็นชอบ ขณะที่ในการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ในระดับรอง ผบก. ลงมา ต้องแต่งตั้งจากผู้อยู่ในหน่วยไม่น้อยกว่า 2 ปี เว้นนายเวร ผู้ช่วยนายเวร หรือนายตำรวจราชสำนักประจำ

5. การโยกสลับในระดับเดียวกัน ตั้งแต่ระดับ สว. ถึงรอง ผบช. ย้ายได้เมื่ออยู่ในตำแหน่งครบ 2 ปี เว้นแต่ผู้นั้นสมัครใจ ถูกลงโทษทางวินัยสูงกว่า ภาคทัณฑ์ ต้องคดีอาญา ศาลพิพากษาว่ากระทำผิด ตำแหน่งเดิมถูกยกเลิก ตัดโอน นายเวร ผู้ช่วยนายเวร นายตำรวจราชสำนักประจำ

6.นอกจากเพิ่ม-ลดอาวุโสในการแต่งตั้งแล้ว มีการกำหนดระดับของ บช., บก. และสถานีตำรวจ เพื่อสร้างระบบการเติบโต จากหน่วยปริมาณงานน้อยไปยังหน่วยปริมาณงานมาก โดยตำแหน่งระดับ ผบช. มี 2 ระดับ คือผบช. ที่มีหน่วยบริหาร เช่น ผบช.ภ., ผบช.ก. และ ผบช. ที่ไม่มีหน่วยบริหาร เช่น จเรตำรวจ ผบช.ประจำฯ ขณะที่หน่วยงานส่วนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมพื้นที่ กำหนดระดับของหน่วยงานระดับ บก. สถานี แบ่งครึ่ง เป็นระดับ 1 และ 2 ตามปริมาณและคุณภาพงาน

โดยให้ ก.ตร. เห็นชอบ

7.การแต่งตั้งหมุนเวียน เลื่อนระดับระหว่างหน่วยงาน กำหนดว่าหากจะแต่งตั้งหมุนเวียน ผบช. มาในหน่วยงานที่มีหน่วยบริหาร ต้องคัดเลือกจาก ผบช. ที่มีหน่วยบริหารก่อน จากนั้นค่อยพิจารณาจาก ผบช. ในหน่วยที่ไม่มีหน่วยบริหาร การคัดเลือกเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จากรอง ผบช. ขึ้น ผบช. ให้ขึ้นเป็น ผบช. ที่ไม่มีหน่วยบริหารก่อน ขณะที่การแต่งตั้งในส่วนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ให้แต่งตั้งขึ้นในหน่วยระดับ 2 ก่อน กรณีแต่งตั้งหมุนเวียนหากอยู่ในหน่วยระดับ 1 แล้ว โยกได้ในหน่วยระดับ 1 เท่านั้น ลดเกรดไม่ได้ เว้นแต่ถูกลงโทษทางวินัยสูงกว่าภาคทัณฑ์ หรือต้องคดีอาญา

8. การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในหน่วยส่วนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม หรือหน่วยที่มีอำนาจสอบสวน การแต่งตั้งผู้กำกับการหัวหน้าสถานี ที่มีอำนาจสอบสวนนอกจากคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งแล้ว ผู้ได้รับการแต่งตั้งต้องผ่านการทำสำนวนการสอบสวนไม่น้อยกว่า 280 สำนวน (ไม่รวมคดีศาลแขวงที่ผู้ต้องหารับสารภาพ) และดำรงตำแหน่งในสายงานสอบสวนไม่น้อยกว่า 4 ปี

และการแต่งตั้ง ผบช.-ผบก. ในหน่วยส่วนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม หรือหน่วยอื่นที่มีอำนาจสอบสวนต้องมีคุณสมบัติเหมือน ผกก. หัวหน้าสถานี

ท้ายรายงาน สปท. สรุปว่า การแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่ง-โยกย้ายอย่างเป็นธรรม ถือเป็นส่วนหนึ่งของขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ

ทำให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างตรงไปตรงมา มีประสิทธิภาพ ก่อเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรวม เพราะไม่ต้องพึ่งพาผู้มีอำนาจทั้งภายในและภายนอก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างขวัญ กำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจ โดยทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายมีความเป็นธรรมและมีการวางตัวผู้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด

กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งให้มีความชัดเจน แน่นอน ลดการใช้ดุลพินิจของผู้มีอำนาจตามที่ สปท. เสนอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเจริญเติบโตก้าวหน้าของข้าราชการตำรวจ

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนสำคัญในการปฏิรูปตำรวจอย่างแท้จริง !!



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

พล.ท.ภราดร ชี้ครบ93ปีประชาธิปไตยไทย เดินสายพูดคุยปชช. พบสาเหตุที่ ปชต.อ่อนแอ
อดีต รมว.คลังชี้ช่วงนี้​ จะให้ศก.​เติบโต​สูงขึ้น ต้องปรับค่าเงินบาทลดลง​ ให้แข่งขันได้​ อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือทางนโยบายของรัฐบาล​ ไม่ควรปล่อยให้ขึ้นๆลงๆ​ ตามนักเก็งกำไร
รสนา ชี้กัมพูชาอ้างชุมนุม1.5 แสนคน เป็นแค่ราคาคุย ความจริงแค่หมื่นกว่าคนเท่านั้น
‘ลิณธิภรณ์’ จวก ‘ศุภชัย’ ร้อนรนเป็นฝ่ายค้าน ลืมอดีต เพื่อไทย เคยเสนอนำกัญชากลับบัญชียาเสพติด ย้ำรัฐบาล ‘แพทองธาร’ เร่งรื้อมรดก ‘ภูมิใจไทย‘ ทิ้งกัญชาเสรีทำลายสังคมไทย
มงคล ทศไกร ร่วมเปิดฟุตบอลคลินิก ให้เยาวชนคลองเตยและชุมชนเชื้อเพลิง โครงการ “BROS.CORE 2025 : เปิดเทอมเติมฝัน ปีที่ 2”
‘ใหม่-เต๋อ’ หมั้นแล้ว เปย์หนักแหวนเพชร 15 กะรัต ‘7 ปีกลัวที่สุด จับแต่งเลย จะได้ไม่ต้องเลิก’
ประเทศดี ที่มี ‘คนทุจริต’ กับ ‘อยุติธรรม’ อยู่อาศัย
93 ปี 24 มิถุนายน 2475 อาจต้องรอเกิน 100 ปี …จึงจะมีประชาธิปไตย
‘เครียด-จุดเดือดต่ำ-ซึมเศร้า’ บช.น.จัดคอร์สธรรมะขัดเกลาใจ สู้ความกดดันชีวิตอย่างมีสติ
จากการไล่ล่าผู้อพยพของ I.C.E. ในแอลเอ สู่การประท้วงใหญ่ ‘No Kings’ ทรัมป์ ทั่วอเมริกา
ขยายผลขบวนการค้า ‘ยาเสียสาว’ สวมชื่อ 370 คนตาย-สั่งซื้อ อย.แจ้งจับเพิ่ม 6 แพทย์ ร่วมทีม ‘หมอแอร์’ ใช้แฟลต ตร.ซุก 1.7 แสนเม็ด
ศึกอิหร่าน-อิสราเอล เมื่อ ‘คาเมนี’ ถูกต้อนเข้ามุม