

สภาพการณ์การเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 เหตุใดจึงมีแต่เพียงพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลเท่านั้นที่มีกิจกรรม”มวลชน”ในลักษณะระดมคน
ทำไมไม่เห็นในพรรคภูมิใจไทย ทำไมไม่เห็นในพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำไมไม่เห็นในพรรคพลังประชารัฐ
แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเคยเป็น”สถาบัน”ก็ไม่มี
บรรยากาศในการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของแต่ละพรรคการเมืองตามข้อกำหนดของพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองยังมีอยู่ตามระเบียบ
แต่ที่จะจัดกิจกรรมในแบบ”10 เดือนไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10”ในแบบของพรรคเพื่อไทยไม่ปรากฏ ยิ่งกิจกรรมในแบบมหกรรม นโยบาย ก้าวไกลBigBang ยิ่งไม่มีทางเกิดขึ้น
ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะมองไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคชาติไทยพัฒนา
ขณะเดียวกัน เมื่อมองไปยังกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยและกิจกรรมของพรรคก้าวไกลก็มีความต่างดำรงอยู่ในความเหมือน
ความเหมือนอย่างยิ่งก็คือการพยายามเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมเพื่อสมานสานสัมพันธ์ระหว่างพรรคกับสมาชิกพรรค ไม่ว่าเป็นกิจกรรมในสำนักงานใหญ่ กิจกรรมในแต่ละจังหวัด
ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคก้าวไกล ทุกครั้งที่จัดก็สามารถระดมคนเข้าร่วมด้วยความคึกคัก หนักแน่น
เห็นได้จากเมื่อคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยไปเยือนเชียงใหม่ ไปเยือนภูเก็ต ไปเยือนนครราชสีมา ไปเยือนปทุมธานี ก็จะเห็นมวลชนโดยเฉพาะ”คนเสื้อแดง”มาห้อมล้อม
เห็นได้จากเมื่อมีการจัดงานก้าวไกลBigBang ตลอดทั้งวันในภิรัชฮอลล์ ไบเทค บางนา ก็มีแฟนานุแฟนหลั่งไหลไปเข้าร่วมอย่างอบอุ่น
ภายในความเหมือนที่ปรากฏความต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนเป็นความต่างและความหนาแน่นของกลุ่มคนที่เข้าร่วม
พรรคเพื่อไทยเป็น”สูงวัย” พรรคก้าวไกลเป็น”หนุ่มสาว”
ยังเป็นคำถามอยู่ว่าการมาของ”มวลชน”เป็นการมาตามระบบหัวคะแนน หรือมาด้วยหัวคะแนน”ธรรมชาติ”ปริมาณการเข้าร่วมจึงเป็นที่อิจฉาตาร้อนเป็นอย่างสูง
ไม่ว่าจะมองจากพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะมองจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะมองจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมองจากพรรคประชาธิปัตย์
มองการไหลเข้าไปของ”มวลชน”อาการกระบอกตาร้อนผ่าวก็จะสะทกสะทือนตามมา